รูป เดินเล่นทองหล่อตอนดึก มาแล้ว
การเดินทางในคืนนั้น เริ่มจาก … งานแต่งงาน เอ๊ะ
ไปงานแต่งงานลูกคนแถวบ้านเป็นเพื่อนแม่น่ะ ที่โรงแรมแถวโบ๊เบ๊
กลับมาบ้านประมาณสามทุ่มน่าจะได้
อารมณ์ช่วงนั้นมันคง อืม อยากออกไปข้างนอกหน่อย
ทำธุระกับที่บ้านมาทั้งวันแล้ว แนว ๆ นั้นมั้ง
พักนี้เป็นบ่อย .. สงสัยจะอยู่คนเดียวมานานเกินไป
อยากอยู่กับตัวเองบ้าง อยากออกไป ‘หา’ อะไรบ้าง
ก็เลย ขอออกไปเดินหน่อยเถิด
ตั้งใจตอนแรกว่าจะออกตอนสี่ทุ่ม
มัวแต่ดูบล็อก ล่วงเลยไปถึงห้าทุ่มกว่าโน่น กว่าจะได้ออก
พี่สาวก็งง ๆ เออ จะออกไปไหนเนี่ย ดึกป่านนี้
พอบอกว่าไปเดินเล่น เค้าก็ว่า เมืองไทนมันไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้นนะเว้ย
เราก็ อืม ก็ใช่แหละ แต่มันก็เลือกเดินได้น่ะ น่าจะโอเค
พูดถึงความปลอดภัย กับการเดินตอนกลางคืนในกรุงเทพ ผมเคยเดินจากแถวหน้าโปเซดอน รัชดา ประมาณเที่ยงคืนได้มั้ง
ไปถึงแถวหลักสี่ตอนน่าจะตีสี่ได้ ก่อนจะขึ้นรถเมล์กลับหอที่มธ.รังสิต
อารมณ์ตอนนั้นมันคือ เออ มาลองดูหน่อยซิ ว่าจะเดินได้ถึงแค่ไหน
เส้นทางที่เดินคือถนนรัชดา จากหน้าโปเซดอน ก็เดินมาเรื่อย ๆ ถึงศาลฎีกา ก่อนจะหาทางลอดใต้ทางยกระดับ (ที่มันตัดกับวิภาวดีน่ะ) ไปออกอีกทางได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน มันไม่มีสะพานลอย เราก็เดินเลาะ ๆ ลอด ๆ เอา ไปตาม
ทางยกระดับ ไปออกตรงที่มันเป็นที่จอดรถขยะเยอะ ๆ อีกฝั่งน่ะ
ถามว่าปลอดภัยมั๊ย มันก็ไม่ค่อยหรอก แต่อารมณ์ตอนนั้นมันอยากเอาชนะน่ะ บ้า
แต่ถามว่ากลัวอะไรเหรอ คนก็ไม่ใช่ รถก็ไม่ใช่ (แทบจะไม่มีรถเลยตอนนั้น) แต่กลัวผี กะกลัวหมา
โดยเฉพาะหมานี่น่ากลัวมาก มันอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ใต้ทางยกระดับนั่น ไม่น้อยกว่าห้าสิบตัวล่ะ
กลัวว่าถ้าเกิดมีตัวไหนมันเริ่มกัด ก็คงไม่รอดแน่ ดีว่าเคยมีประสบการณ์ถูกหมากัดมาก่อน เพราะดันวิ่งหนี เลยพอจะรู้ว่าควรจะวางตัวยังไง แต่ทุกวันนี้นึกถึง ก็ยังกลัวอยู่ มันเยอะจริง ๆ
แต่นี่มันก็คงเฉพาะเขตเมืองที่พอจะรู้จักล่ะนะ ถ้าเป็นนอก ๆ ไปอีก ผมก็คงไม่เอาหรอก เป็นอะไรไปก็ไม่มีใครรู้แน่
นึก ๆ แล้วก็ เออ อันตรายนี่หว่า
บ้าบอจริง ๆ
มีลูกแบบนี้ก็คงกลุ้มใจเป็นธรรมดา
กลับมาที่คืนนั้น ทองหล่อ ต่อ
ก็ออกจากบ้านมา มันจะเที่ยงคืนแล้ว เราเลยขอแวะไปซื้อเบียร์ที่เซเว่นแถวบ้านก่อน
กระป๋องนึงน่า ตุนไว้ก่อน ในใจคิด ขอเดินกินชิล ๆ หน่อย
จะไปซื้อเอาดาบหน้าก็ไม่ได้ เดี๋ยวนี้หลังเที่ยงคืนเค้าห้ามขายแล้ว
ซื้อได้อีกที โน่น สิบเอ็ดโมง 😛
(แต่สุดท้าย เบียร์หนึ่งกระป๋องที่ซื้อไป ก็ไม่ได้กิน เอากลับมาแช่ต่อที่บ้าน .. พาเบียร์ไปเดินเล่น :P)
ได้เบียร์ปุ๊บ เราก็เดินมาอีกฝั่ง ดูนั่นดูนี่แถวบ้าน เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน
มีตึกแถวสร้างใหม่ มีตึกสำนักงานสร้างใหม่ เซเว่นอีกสาขาก็กำลังทำร้านใหม่ ขยายไปอีกห้อง (รูปแรก)
ดูจนพอใจแล้ว ก็เรียกแท็กซี่ จะไปละ
บอกคนขับแท็กซี่ไปตอนแรกว่า นานา
กะจะเดินจากแถวนั้น แล้วค่อยเลยไปถึงทองหล่อ
แต่นั่งไปซักพัก รถวิ่งไปจะถึงเส้นเพชรบุรีตัดใหม่แล้ว ก็เปลี่ยนใจ ขอเปลี่ยนเป็นทองหล่อก่อนละกัน
ให้พี่เค้าไปส่งตรงตีนสะพานด้านถนนเพชรบุรี ที่จะข้ามไปทองหล่อ
แล้วก็เริ่มเดิน
ผมเลือกที่จะข้ามสะพานด้วยการเดินบนพื้นถนน ส่วนเดียวกับที่รถวิ่ง ไม่เดินไปด้านข้างสะพาน คิดว่ามันคงมี
บันไดแหละ แต่มันมืดไปหน่อย เดินด้านนี้ดีกว่า สบายใจ รถมันไม่เยอะ นาน ๆ มาที เดินได้
ข้ามมาอีกฝั่ง ก็เห็นคนเดินอยู่สองกลุ่ม เพิ่งลงจากรถ คงจะมาเที่ยวผับแถวนั้น เออ ผมเพิ่งรู้แฮะ ว่าไอ้ตึกตรงนี้มันคือตึกลิเบอร์ตี้ เคยมานะ เมื่อก่อนมีร้านเพื่อนของเพื่อนตั้งอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไรไง
อ้อ แจ่มบาร์มันก็อยู่ตรงนี้แฮะ … พูดไปก็เขิน ๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้จักผับใหม่ ๆ เลย ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา 😛
เดินมาได้หน่อย มันก็เป็น H1 ที่หมายมั่นปั้นมือไว้สักพักละ ว่าจะขอมาเยือนหน่อย
ปรากฎว่ามันปิดแล้ว 😛 แหงล่ะ ก็มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนี่
แต่ก็โอเค เห็นร้านหนังสือที่อยากเข้าไปดูละ ใหญ่เหมือนกันนะ ไว้วันหลังมาใหม่
เดินไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปโน่นนี่เป็นระยะ
ทองหล่อตอนไม่มีคนเที่ยวนี่ มันเงียบจริง ๆ นะ
ไม่น่าเชื่อเลย เปลี่ยวกว่าแถวบ้านผมตอนดึก ๆ อีกเอ้า
อย่างน้อยในซอยแถวบ้านผม ไฟมันก็สว่างกว่าแถวนี้ล่ะ 😛
ถนนเส้นต่าง ๆ บางทีก็คงเหมือนคน มีช่วงเวลาของมัน ตื่น นอนหลับ
บางเส้นก็ตื่นตอนกลางคืน นอนตอนกลางวัน บางเส้นก็กลับกัน
และบางคืนบางคน ก็นอนไม่หลับ ออกมาเดินให้ถนนเป็นเพื่อน
ประชากรส่วนใหญ่ที่พบเจอในช่วงเวลานั้น
คือเจ้าหน้าที่ รปภ. … พี่ยามทั้งหลายนั่นเอง
หรือไม่ก็จะเป็นพนักงานร้านอาหารต่าง ๆ ที่เพิ่งเลิกงาน
ออกมาจับกลุ่มคุยกัน หรือหาอะไรกินตามรถเข็นข้างทาง ซึ่งก็มีเหลือเปิดอยู่ไม่มากนัก
บนถนนทองหล่อวันนี้ มีพื้นที่ประมาณ “เวิ้ง” เปิดกันให้พรึ่บ
คือเป็นลักษณะเป็นตึกสองสามชั้น เว้าเข้าไปเป็นที่จอดรถ แล้วก็มีร้านรวงหลาย ๆ ประเภทเปิดอยู่ข้างใน
ก่อนหน้าที่ผมจะไปเรียน เห็นมีอยู่แค่อันเดียว ที่มันมี สตาร์บั๊กส์ด้านหน้า กะ ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้านใน น่ะ
แต่ตอนนี้ น่าจะมีซักสามสี่อันได้มั้ง ช่วงหัวค่ำก่อนเที่ยงคืน คงจะคึกคักทีเดียว
เอาไว้จะมาใหม่ 🙂
ใกล้จะถึงปากซอยทองหล่อด้านสุขุมวิท ช่วงนี้ก็จะเป็นดงเล็ก ๆ ของร้านอาหารญี่ปุ่น แม้จะเยอะสู้แถวเอ็มโพเรียม
และละแวกนั้นไม่ได้ แต่ก็มีพอสมควรทีเดียว
เคยมากินหมูกะทะเกาหลีร้านแถวนี้ อร่อยดี
กับเพื่อน ๆ ที่ถูกใจ กินไปคุยไป บรรยากาศสนุก ถ้าของที่กินจัดเป็นอาหารคนหน่อย อะไรก็คงอร่อยไปหมด
ออกมาถึงหน้าปากซอยแล้ว ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเป็น 55 โภชนา ร้านประจำของใครหลายคน
ผมเลี้ยวขวา ขึ้นสะพานบีทีเอส
มองลงไปในซอยตรงข้าม รถเข็นขายอาหารเก็บไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่เจ้า
เหล้าจะอร่อยยังไง (อืมม .. จริง ๆ มันไม่อร่อยนะ) สุดท้ายถ้าหิวก็ต้องกินข้าว
ร้านอาหารรอบดึกใกล้ที่เที่ยวจึงขายดีเสมอ … ไม่ใช่สักแต่ว่ามากินให้อิ่ม ๆ ไป หลายเจ้านั้นก็อร่อยทีเดียว … แต่ไม่รู้เป็นเพราะว่าเมารึเปล่าน่ะสิ 😛
เดินไปเรื่อยทางทิศเข้าเมือง ตามเส้นทางบีทีเอส
มืดกว่าที่คิดนะ ถนนแถวนี้
หรือเพราะว่ารางรถไฟมันบังแสงจันทร์เสียหมด ?
ไฟถนนก็ดูจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
ตึกแถวนี้ไม่เปิดไฟหน้าร้านแฮะ นาน ๆ จะมีบางร้านที่เปิด
ต่างจากในซอยทองหล่อ ที่ผู้คนที่ผมพบเห็นส่วนใหญ่เป็นพนักงานร้าน กำลังจะกลับบ้าน
ผู้คนแถวนี้ที่เจอ ส่วนใหญ่น่าจะไม่มีบ้านให้กลับ
หลายคนนอนอยู่ใต้สะพานลอย ที่ป้ายรถเมล์ หรือหน้าร้านค้าที่ปิดอยู่
เป็นอย่างนี้ไปตลอดแนว จนถึงแถวนานา
นอกจากจะมีหลับมีตื่นแล้ว ถนนแต่ละเส้น ก็ยังมีชีวิตที่ไม่เหมือนกันในแต่ละช่วงของวันด้วย
เจอฝรั่งออสซี่คนนึงระหว่างทาง
เราเจอกันตรงใต้สถานีบีทีเอสอโศก
เขากำลังมองดูคนไม่มีบ้านคนนึงนอนอยู่หน้าลิฟต์บีทีเอส
ผมมองดูเขา เขาหันมา ผมยิ้มให้สั้น ๆ หันมองไปที่คนที่นอนอยู่ แล้วหันกลับมายิ้มให้เขาอีกที
บทสนทนาจึงเริ่มต้น เขาเริ่มถามก่อน “คิดยังไงกับภาพนี้ ?”
ผมไม่รู้จะตอบอะไร นิ่งไปซักพัก คิด ก่อนจะตอบไปว่า “ไม่รู้” อยู่สองสามครั้ง
เหมือนจะย้ำว่าไม่รู้จริง ๆ แต่ก็นั่นล่ะ ผมไม่รู้จริง ๆ
เราเดินออกมาไปทางนานา “ด้วยกัน”
ที่พักเค้าอยู่แถวนั้น ผมเองก็จะเดินไปทางนั้นอยู่แล้ว
จะเรียกว่าเดินไปด้วยกันดีไหม่ .. “เดินร่วมทางกัน” ก็แล้วกัน
ผมบอกเขาว่า ผมคิดว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากนอกกรุงเทพ
เข้ามาหางาน มาหาชีวิตที่ดีกว่าในกรุงเทพ
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ
ถนนสุขุมวิทตอนเที่ยงวัน ที่เป็นที่รวมของคนประสบความสำเร็จ มีห้างหรู มีสำนักงานมากมาย
พอหลังเที่ยงคืน เลยกลายเป็นที่รวมของคนอีกด้าน
ข้อสรุปในความคิด ที่ผมพยายามบอกเขาไป มันดูเหมารวมไปหน่อย
แต่บางส่วนก็น่าจะเป็นความจริงบ้าง
ตอนที่เขาถามว่า ผมมาจากไหน แล้วได้รู้ว่า “มาจากกรุงเทพ”
เขาทำท่าแปลกใจ ถามผมว่าแล้วมาทำอะไรแถวนี้ เวลานี้
ผมบอก รู้สึกอยากเดิน นอนไม่หลับด้วย หลาย ๆ อย่าง
ฝรั่งออสซี่คนนี้ดูท่าเขาจะชอบเดินดูอะไรตามถนนเหมือนกัน
เขาว่ามันเห็นอะไรเยอะดี กลางวันก็อย่าง กลางคืนก็อย่าง ถนนเดียวกันนี่แหละ
นี่พอไปถึงที่พักแล้วเขาจะไปหยิบกล้อง แล้วจะกลับไปถ่ายรูปคนไร้บ้านตรงบีทีเอสนั้น
…
จะอยู่ใกล้บ้านหรือไกลบ้าน เราต่างก็กำลังเดินทาง
จบตรงนี้ดีกว่า 🙂
tags:
Thonglor |
Sukhumvit |
Bangkok |
Thailand |
night |
walk |
photos
11 responses to “Thonglor night walk photos”
งานแต่งธุระที่บ้านเดินถนนลำพังผจญภัยแหล่งบันเทิงครบวงจรฝูงสุนัขทดลองเบียร์ชิลย่างก้าวคุ้นเคยเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่เงียบเหงาคุ้นเคยความทรงจำร้างลามิดจันทร์เฝ้าดูแตกต่างอาจจะประหลาด?ร่วมทางเดียวดายซึมซับ
บังเอิญเข้ามาอ่านค่ะ ดีใจที่เจอคนชอบเดินเหมือนกัน :)Cheers!!
55 คุณ thegirlfriday นี่เจ๋งจริงๆ 😛 อืม ถ้าได้กลับไปแล้ว จะไปเดินบ้างดีกว่า :)แนะนำว่าแถวประตูน้ำก็น่าสนใจนะ ใช้ได้ทีเดียว ไม่มีดีไซน์อะไรสวยหรู แต่เป็นดีไซน์บ้านๆ เฉิ่มๆ แต่ไม่น่าเบื่อ แกบอกว่ายังหาไม่เจอ แต่ชั้นว่าแกหาเจอแล้วล่ะ 🙂
อ่านเพลินดีครับว่าแต่ เวลาคุณเจอหมาที่จะเข้ามากัด จะทำไงอ่ะครับ ?
เมื่อก่อนชอบเดินเหมือนกันนะสมัยอยู่ที่โน่น ออกจากบ้านสักสี่ทุ่ม ไปชิล ๆ ที่ร้านหนังสือเสียก่อน แล้วก็เดิน ๆ สักหน่อย อากาศเย็น ๆ สูบบุหรี่อุ่น ๆ ที่มือเดินสักรอบ กลับบ้านทำงานต่อ หัวโล่งสบายที่เมืองไทยดึก ๆ ไม่ค่อยได้เดิน เพราะว่ากลัวนี่แหล่ะ เคยเดินกลางวัน (เพราะความจำเป็น/อยากลอง) โทรมเลย ทำให้ได้เห็นอะไรแตกต่างไปอีกแบบ…เดินใต้ BTS นี่แหล่ะ (แถบสะพานควาย) มันร้อน แล้วก็อากาศแย่มาก ๆ ทำให้รู้สึกว่าคนที่มีสิทธิใช้ BTS เหมือนอยู่ "กรุงเทพ" จริง ๆ คือ อยู่สูงกว่าคนอื่น เป็นอภิสิทธิ์อีกระดับ (ตามที่โฆษณา) จริง ๆ เพราะว่าเท่าที่เคยฟังมา คนทั่วไปมีงบเดินทางไม่มากพอที่จะทำให้ขึ้น BTS ได้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่า จะติดพัดลมดูดอากาศให้มันถ่ายเทให้กับข้างล่างหน่อยก็ไม่ได้หรือไง สมัยที่สร้างใหม่ ๆ หรือก่อนสร้างก็จำไม่ได้เคยได้ยินว่ามีคน comment เรื่องนี้ แต่ว่าตอนนี้คนคงลืมหมดแล้ว คนที่ต้องอยู่กับสภาพด้านล่าง ก็คงชินเสียแล้วเคยอ่าน Zen and the Art of Motorcycle Maintenance คนเขียนขี่มอ'ไซค์ ไปกับลูกข้ามประเทศ เขาบอกว่านั่งรถติดแอร์เนี่ยะ สภาพรอบข้างเหมือนเป็นหนังที่ฉายผ่านไป แต่ขี่มอ'ไซค์เหมือนอยู่ในฉากนั้นด้วยเลยผมว่าเดินไปเนี่ยะ ไม่ได้อยู่ในฉากหรอก อาจจะเรียกว่าเข้าไปเล่นในหนังด้วยคนเลยก็ได้โดยเฉพาะฉากที่มีหมา 50 ตัวน่ะ…
^^^^ post รอบแรกแล้วมันขึ้น error ลองอีกทีมันเลยซ้ำ ไม่อยากจะเป็นคนย้ำคิดย้ำทำเลยขอลบสักหน่อย
เส้นวิภาวดี ช่วงรัชวิภา-เกษตร ตอนกลางคืนถ้ามองลงไปในแอ่งระบายน้ำ(เรียกท่อไม่ได้ มันใหญ่)จะเห็นฝูงค้างคาวบินกันเต็มไปหมดสำหรับผม(คนที่กินนอนในกรุงเทพฯ) ถือเป็นAmazing แบบหนึ่งในกรุงเทพฯ บางช่วงก็ไม่มีเส้นเดินนะอย่างเช่น จากแยกประชาชื่น จะข้ามมาทาง รัชโยธิน ระยะทางแค่ 1 km แต่ไม่มีทางเดินของคนอยากเดิน ก็ต้องไปเดินบนถนน 4 เลน ที่ไม่มีฟุตบาท
ชอบเดินเหมือนกันเลยนะครับว่างๆ น่าจะชวนกันเดินด้วยกัน เมื่อก่อนมากรุงเทพใหม่ๆ ก็ฮึดเดิน เดินจากที่พักย่านสะพานควายไปเยาวราชผมชอบเดินแถวชุมชนเมืองเก่าแก่ เดินได้ไม่เบื่อทุกวันนี้ก็เดินวนเวียนเล่นอยู่แถวถนนราชดำเนินอยู่เรื่องเดินจากอนุสาวรียชัยฯไปกลับสนามหลวงนี่ขนมๆ ^_^แต่เดี๋ยวนี้เริ่มหันมาใช้จักรยานบ้างละปั่นไปกลับทำงานทุกวัน มีความสุข ^_^
ไอ้ตรงสะพานข้ามคลองแสนแสบข้างลิเบอร์ตี้นั่นเคยเดินข้างล่าง น่ากลัวมากๆวิภาวดีฝั่งทางรถไฟก็เปลี่ยวสุดๆ เคยเดินตรง รพ. วิภาวดีกลับหอทีเดียวเลิกเลย หลอน
ทุกท่าน: เย้! ไปเดินกัน :)'จารย์มะนาว: อาจจะไม่ถึงขนาดเล่นหนัง คงประมาณแค่โฮมวีดิโอ .. แบบว่าเป็นประสบการณ์ตื่นเต้น นึกถึงแล้วก็ยังสนุกchang: เวลาเจอหมา ให้หยุด ดูหน้ามันครับ ดูใจกันก่อน แผ่เมตตาไว้ อย่าวิ่งหนีก่อนเป็นอันขาด ดูทีท่าจนมันไม่ทำอะไรเราแน่น่ะ แล้วค่อย ๆ เดินไปหาพี่ป็อก: ใช่แล้ว คนที่ไม่มีปัญญานั่งบีทีเอสคือพลเมืองชั้นสอง!ดูตรงหน้าโรงพยาบาลตำรวจสิทางเท้าที่แคบอยู่แล้ว ถูกเบียดบังไปเป็นบันไดของสกายวอล์ก เหลือแค่ที่แคบ ๆ พอเดินตะแคง ๆ ผ่านไปได้เท่านั้นและสำหรับคนตัวใหญ่ หมดสิทธิ์ ต้องลงไปเดินบนถนนสถานเดียวนี่แหละหนอ กรุงเทพเมืองฟ้าอมรmk: วิภาวดีฝั่งทางรถไฟ ถ้าจะเดิน ให้ไปเดินถนนคู่ขนานด้านในจะดีกว่า เดินง่ายกว่าถ้าเกิดเดินตรงวิภาวดีเลย นอกจากจะต้องเสี่ยงกับรถแล้ว (โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่มันมืด ๆ)ยังเสี่ยงกับการตกท่อด้วย ฝาปิดท่อแถวนั้นมันเก่ามาก บางอันปูนกร่อนไปเยอะแล้ว กลายเป็นรู ผมเคยเกือบตกตอนนั้นเดินจากดอนเมืองย้อนเข้าเมืองมันไม่มีทางเท้า ไปเดินคู่ขนานดีกว่าrenrg-rit: เส้นทางอนุเสาวรีย์ชัย-สนามหลวง ที่คิดว่าน่าเดิน น่าจะเป็นทางโรงบาลราชวิถี ข้ามทางรถไฟ ไปทางสวนจิตร เข้าราชดำเนิน ใช่รึเปล่าครับ ?ด้านสวนจิตรนี่ร่มรื่นดี เย็น ๆ จะมีคนมาวิ่ง
คนที่อยู่ข้างถนนเหมือนเขาก็จะคิดอีกแบบ ทางม้าลายรถไม่ต้องหยุดก็ได้ ทางเดินเอาไว้ขายของ คนลงไปเดินบนถนนถูกแล้ว หรือถ้าไม่ขายของก็เอาไว้ระบายน้ำจากตึกแถว คนที่ทำทางเดินเช่น เทศบาล หรือมหาลัย ก็เหมือนคิดอีกอย่าง ส่วนมากสงสัยจะคิดว่าเอาไว้ปลูกต้นไม้ คนก็เดินเบียบกับยรถเหมือนเดิม อยากจะเดินไปด้วยอารมณ์ละเมียดลุ่มลึก สังเกต และเข้าใช้วิธีประชา (อารมณ์ aday + art&culture + ประชาไท)แต่ไปเดินจริงๆแล้วมันช้ำ คิดอะไรไม่ค่อยออก