Category: Rights & Freedom

  • ลิขสิทธิ์และ generative AI ในร่างกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ของสหภาพยุโรป: สถานะปัจจุบัน

    ว่าด้วย generative AI และประเด็นลิขสิทธิ์ ในร่างกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรปทั้ง 3 ร่างจาก Commission, Council, และ Parliament

  • รวมกรณีหมายเลขโทรศัพท์หลุดรั่ว 2561-2564 (บางส่วน)

    กรณีการหลุดรั่วของข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างปี 2561-2564 (บางส่วน) เน้นเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ

  • [AI Incident Report] Wallet app failed to recognize faces, bars Thai citizens from claiming government cash handout

    Lots of Thais cannot register for the government cash handout scheme, aimed to boost local economy, as the app managing government wallet failed to recognize their faces during the authentication process. People entitled to the handout have to wait for a very long queue at their local ATMs instead to get authenticated.

  • รวมเอกสารข้อเสนอการกำกับกิจการ AI ของไทย (ต.ค. 2565 / มี.ค. 2567)

    รวมเอกสารข้อเสนอแนวปฏิบัติและการกำกับกิจการที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ของไทย ทั้งที่ “ประกาศใช้แล้ว” และที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและรับฟังความคิดเห็น

  • กรณีข้อมูลผู้ป่วยโรงพยาบาลเพชรบูรณ์หลุดรั่ว

    ข้อมูลคนไข้ที่หลุดรั่วออกมา มีชื่อ-สกุลของคนไข้ วันเดือนปีเกิด เพศ ชื่อหมอ ค่าใช้จ่าย สถานะการจ่าย ประเภทสิทธิการรักษา ชื่อวอร์ด — แม้จนถึงตอนนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะถูก “เลื่อน” หรือยกเว้นไม่ให้ใช้บังคับอยู่เกือบทุกมาตราที่เกี่ยวกับการคุ้มครอง (เลื่อนมา 2 รอบละ) แต่มาตรา 4 วรรค 3 ยังไงก็ยังใช้บังคับอยู่นะ

  • คิดเงิน “ตามตัวอักษร” แฟร์ไหม?

    เห็นวิธีคิดเงิน API ของกูเกิล ทำให้คิดถึงการออกแบบ Unicode และ “ความเท่าเทียม” ในระบบคอมพิวเตอร์

  • ค้าปลีกดิจิทัล – การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย

    ค้าปลีกดิจิทัล – การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย

    มองหาผู้มีส่วนได้ที่เกี่ยวของกับการค้าปลีกในยุคดิจิทัล เรื่องนี้ไปเกี่ยวกับเรื่องซอยเปลี่ยวได้ไหม

  • ข่าวปลอมคือข่าวที่ทำให้คล้ายข่าวจริง

    แบงก์เกมเศรษฐีไม่ใช่แบงก์ปลอม ปลอมคือมันไม่เคยจริง *และ* มีความพยายามทำให้เข้าใจผิดว่ามันจริง ไปรู้จักกับ mis-information, dis-information, และ mal-information ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความปั่นป่วนของข่าวสาร (information disorder)

  • สวัสดิการและโอกาสที่ไม่ผูกกับนายจ้าง

    แฟลตทหาร แฟลตตำรวจ บ้านพักผู้พิพากษา ฯลฯ โดยรวมๆ ควรเอาเงินไปกองรวมกันที่การเคหะไหม แล้วสร้างระบบ public housing ที่ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้ โดยไม่ผูกกับนายจ้าง ไม่ให้การจะมีที่อยู่อาศัยต่อหรือไม่มาเป็นพันธนาการรั้งการตัดสินใจไปในทิศใดทิศหนึ่งระหว่างประกอบอาชีพ (ถ้าทำแบบนี้ ถูกไล่ออก ครอบครัวจะไปอยู่ไหน) ไอเดียเดียวกันกับ สหกรณ์ออมทรัพย์(เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ)ที่สถานะสมาชิกไม่ควรผูกกับหน่วยงาน (อาจจะผูกกับวิชาชีพก็ได้ ถ้ามีความต้องการเฉพาะ แต่ไม่ผูกกับนายจ้าง)* ประกันสุขภาพที่ไม่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างข้าราชการกับอาชีพอื่น (ประท้วงนายวันนี้ ถูกไล่ออกวันนี้ พรุ่งนี้พ่อแม่ก็ยังเข้าโรงพยาบาลได้มาตรฐานเดิม) ถ้าจะสู้กับอำนาจนิยม-ระบบอุปถัมภ์ หนึ่งในแอกที่เราต้องปลดก็คือ เราต้องแยกการได้รับสวัสดิการพื้นฐาน (และการเข้าถึงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการขยับชั้นทางสังคม) [ที่อยู่-รักษาพยาบาล-การศึกษา-เงินออม-เงินกู้] ออกมาจากความสัมพันธ์ลูกจ้าง-นายจ้าง หรือ ข้า-นาย ให้มันไปอยู่ในความสัมพันธ์พลเมือง-รัฐ แทน เพื่อให้คนมีอิสระและตัดสินใจในชีวิตตัวเองได้มากขึ้น (นี่ยังไม่นับประเด็น echo chamber ของการมีเพื่อนบ้านอยู่ในแวดวงอาชีพเดียวกันเท่านั้น – และความปลอดภัยของการที่นายจ้างสามารถระบุตำแหน่งและเข้าถึงที่พักของลูกจ้างได้ตลอดเวลา) เราควรสนับสนุนให้คนทุกคนสามารถมีที่พักอาศัยที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ราคาเหมาะสม อยู่ใกล้งานและโอกาสอื่นๆ ใครได้ที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้นก็ควรยินดีด้วย แต่มันควรเป็นสิทธิปกติ ไม่ใช่สิ่งตอบแทนพิเศษ และเป็นสิทธิในฐานะพลเมือง ไม่ใช่ในฐานะลูกจ้างองค์กร — *การพัฒนาสถาบันการเงินอย่างสหกรณ์ออมทรัพย์ เครดิตยูเนียน และ building…

  • ว่าด้วยการ “อยู่เฉยๆ”

    อำนาจมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีระเบียบ อำนาจจึงมักเรียกร้องระเบียบ (ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะใช้ประสิทธิภาพที่ได้มานั้นกับเรื่องอะไร) การจัดตั้งของคนอำนาจน้อยก็เป็นระเบียบแบบหนึ่ง และการจัดตั้งเพื่อนำไปสู่การทำให้เสียระเบียบในความสัมพันธ์กับอำนาจใหญ่ ก็เป็นแบบแผนแบบหนึ่งเพื่อต่อต้านอำนาจใหญ่ที่ตั้งอยู่ได้ด้วยระเบียบการทำให้เสียระเบียบ ด้วยการ “อยู่เฉยๆ” เป็นเครื่องมือพื้นฐานของคนที่มีอำนาจน้อย ในฐานะผู้บริโภค ก็หยุดบริโภค (สินค้าที่เราว่าไม่โอ)ในฐานะคนทำงาน ก็หยุดงานในฐานะพลเมือง ก็หยุดทำตามกฎหมาย (ข้อที่เราว่าไม่โอ – คำเรียกสวยๆ คือ civil disobedience)ในฐานะผู้เสียภาษี ก็หยุดเสียภาษีในฐานะเจ้าของข้อมูล ก็หยุดให้ข้อมูล(ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ “ใส่เกียร์ว่าง” lol) การหยุดต่างๆ มันไม่ใช่เพียงการหยุดกิจกรรมเท่านั้น ความสำคัญของการหยุดต่างๆ ข้างต้นนั้นไม่ใช่การหยุดกิจกรรม แต่คือการระงับความสัมพันธ์ชั่วคราว คือเราเป็นผู้บริโภคก็เพราะเราบริโภค เราเป็นพลเมือง ก็เพราะเรากับรัฐมีสัญญาประชาคมระหว่างกัน การหยุดนี้คือ หยุดความสัมพันธ์ และพอไม่มีความระหว่างกัน สถานะเราก็จะถูกรีเซต กลับมาตั้งคำถามว่า เออ ตกลงกูคือใคร และกูเป็นอะไรกับมึง เราเป็นอะไรกัน แล้วที่ทำๆ อยู่ทุกวันนี่ มันสร้างคุณค่าอะไร หรือมึงเห็นกูเป็นของตาย เอาจริงๆ ก็น่าหัวเราะอยู่ คือมีปัญญาทำเท่านี้แหละ ในฐานะปัจเจกหนึ่งหน่วย อาวุธห่าอะไรอื่นก็ไม่เหลือแล้ว (การใช้อำนาจผ่านผู้แทนในระบบ ถ้ามี ก็สิ้นหวังแล้ว) ซึ่งระบบจะไม่รู้สึกอะไรหรอก…