กาแฟดำ : 2550…สิ้นสุดของความ”ไร้เดียงสา”ของคนกรุง
พูดอีกอย่างก็คือ พร้อมกับการมาถึงของปีกุน 2550 คนไทยทุกคนจะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อชีวิตใหม่ และต้องพร้อมที่จะดำรงชีวิตเหมือนคนในหลายๆ เมืองใหญ่ ที่ต้องมีความเป็นนักสังเกต, มีความตื่นตัว และไวต่อข่าวสาร…ตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนกจะกลายเป็นหลักปฏิบัติของชีวิต ประจำวันของคนกรุง
ทุกคนต้องยอมรับผิดกันคนละส่วน เพราะเราได้ปล่อยให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความแตกแยกที่ต่างฝ่ายต่าง ใช้ความรุนแรงและการข่มขู่คุกคาม เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองแทนการปรองดองและสมานฉันท์, แทนการมองประโยชน์ภาพรวมเป็นหลัก และปรับผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของส่วนรวม
ปากพูดว่า “สมานฉันท์” แต่พฤติกรรมยังสะท้อนความเคียดแค้นชิงชัง
ปากพร่ำคำว่า “น้ำใจนักกีฬา” แต่ใจยังร่ำหาแต่ “ชัยชนะบนเงื่อนไขของข้าฯ”
น่าเศร้า, น่าสลด, น่ารันทด, และน่าเสียใจ แต่ก็เป็นเส้นทางที่คนไทยหลายๆ กลุ่ม ได้ตัดสินใจกำหนดเส้นทางนี้ให้คนในสังคม
คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องและพัวพันกับผลประโยชน์เช่นนั้นโดยตรงอย่างพวกเรา ก็ได้แต่ถามเสียงดังขึ้นทุกวันว่า “ทำไม, ทำไม และทำไม?”
ใช่! ทำไม ทำไม และ ทำไม !?
ทำไมวันนี้ผมต้องเดินจากตึกศรีจุลทรัพย์กลับบ้าน ?
ก็เพราะตำรวจเค้าต้องปิดถนน เพราะว่าคนโบ๊เบ๊เค้าทะเลาะกัน ไงล่ะ
แท็กซี่เค้าตรงไปต่อไม่ได้ รถติดรอบด้าน เลยทิ้งผมกับแม่ไว้ตรงนั้นล่ะ จะเอาไงล่ะ ก็ต้องเดินกลับสิ นั่นแหละ ทำไม
กทม.เค้าไล่ที่ ไม่ให้ขายของบนทางเท้า
พวก “ผู้เดือดร้อน” (?) ก็เลยออกมาประท้วงกัน
มีการขว้างปาสิ่งของ ชุมนุมปิดถนน “ขอความเป็นธรรม” (?)
เออ แต่อย่างผมจะไปขอความเป็นธรรมจากไหนล่ะ เมื่อยนะเนี่ย ไม่ใช่ใกล้ ๆ แม่ผมก็ใช่ว่าจะปึ๋งปั๋ง
ขายของบนทางเท้า ทางเท้าสร้างด้วยภาษีใครนะ ? คนขาย หรือคนทั้งกรุงเทพ (หรือทั้งประเทศ?)
แล้วแผงลอยพวกนั้น จดทะเบียนการค้ามั๊ยนะ ? เสียภาษีเต็มมั๊ยนะ ? เอ๊ะ แล้วกำไรไปอยู่ที่ใครนะ ?
เค้าบอกว่าเค้าจ่ายค่าเช่าแผงเป็นแสน เอ๊ะ ที่หลวงนี่นะ แล้วเงินไปอยู่ที่ไหนนะ ? … กลับมาพัฒนากรุงเทพมั๊ยนะ ? หรือเอาไปพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้มีอิทธิพล ? (ให้พวกมันกลับมารังแกพวกเราอีกนี่นะ ?)
ขายของบนทางเท้า วางของส่งของบนถนนสองเลน รถเข็นขนของข้ามไปมาในทุกเลน รถติดบนถนน เอ๊ะ ถนนใครนะ ? เอ๊ะ ใครเสียเวลานะ ? เอ๊ะ ค่าน้ำมันใครนะ ?
(บอกไว้ตรงนี้ว่า ผมเห็นด้วยว่า เราควรมีพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้สร้างตัว แต่กรณีแผงตรงหน้าตลาดโบ๊เบ๊นี่ ไม่ใช่รายย่อยล่ะครับ ค่าเช่าขนาดนี้ — แล้วถ้าจะให้เป็นพื้นที่ได้สร้างตัวจริง ก็ควรจะมีระบบหมุนเวียน ขายได้ไม่เกินกี่เดือนก็ว่าไป แล้วให้รายใหม่เข้ามามั่ง แบ่ง ๆ กัน)
สามวันก่อน ไฟเพิ่งไหม้ตลาดโบ๊เบ๊ วอดไปครึ่งตลาด
การดับเพลิงเป็นไปอย่างไม่เต็มที่ มีแผงลอยขวางอยู่ … บ้านใครนะ ตึกใครนะ ? .. ใช่บ้านคนที่ขายแผงลอยมั๊ยนะ ? อ้าว ไม่ใช่เหรอนะ ?
เคยสุขสบายบนความเดือดร้อนของคนอื่น … พอหมดสบาย ก็จะร้องขอความเป็นธรรมให้สบายต่อ … คิดได้ยังไงนะ ?
มือยาวก็สาวเอา เอาแต่ได้ คิดถึงแต่ตัวเอง ผิดกฎหมายไม่เป็นไร ยัดเงินได้ ขอฉันก่อน … สอนลูกให้รวย สินะ ? 🙂
หลังจากหายตระหนกในช่วงเย็นย่ำของคืนวันสุกดิบแล้ว บางคนส่งสารถึงผมบอกว่า ที่เราปล่อยให้บ้านเมืองหล่นลงเหวแห่งความรุนแรงเช่นนี้ ก็เพราะเราต่างไม่เคยคิดพึ่งพาตัวเอง หวังพึ่งแต่เพียงผู้มีอำนาจพิเศษมาช่วย ทำให้คนไทยไม่เคยยอมเผชิญและวิเคราะห์ปัญหาที่ต้องเจออย่างจริงจังและตรงไป ตรงมา
เราคอยจะพึ่งแต่ผู้มีอิทธิพล ผู้มีอำนาจ ผู้มีบารมี เพื่อจะให้คนเหล่านั้นคุ้มหัวเรา ไปเบ่งกับคนที่ด้อยกว่า เพื่อเราจะได้หาประโยชน์ … แต่พอถึงวันหนึ่ง ที่เค้าไม่คุ้มหัวเรา จะด้วยขัดผลประโยชน์หรือจ่ายไม่ไหวก็ตามแต่ เราก็จะวิ่งไปหาผู้มีบารมีกว่า ๆ ๆ เป็นทอด ๆ ไป …
ความขัดแย้งที่เกิดในสังคมวันนี้ (และนั่นคือที่มาของการโยนระเบิดใส่กันแทนการถกกันด้วยเหตุผลแห่งความถูก ต้องชอบธรรม) เกิดจากการที่ฝ่ายหนึ่งเชื่อในอำนาจเบ็ดเสร็จของด้านหนึ่ง และอีกฝ่ายหนึ่งใช้ความเบ็ดเสร็จของอำนาจอีกด้านหนึ่งมาต่อกรกัน โดยที่ “ภาคส่วนประชาชน” แท้ๆ ไม่ได้มีบทบาทขับเคลื่อน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของสังคมอย่างเป็นระบบเลยแม้แต่น้อย
… ต่อเมื่อไม่รู้จะวิ่งไปหาผู้มีบารมีไหนแล้ว หมดหนทาง เราก็จะวิ่งกลับมาหา “ประชาชน” บอกว่าเราเป็นพวกเขานะ (หรือ “พวกแกต้องเป็นพวกฉันนะ”) บอกว่าเราเป็นพี่น้องร่วมชาติกันนะ ต้องสู้ด้วยกันนะ เราทุกคนเท่าเทียมกันนะ
“ก็แล้วตอนพวกพี่ ๆ อยู่สุขสบายกัน เอาเปรียบผมสารพัด เคยนับผมเป็นญาติไหมครับ ?”
ถ้าโดนแบบนี้กับตัวเองเมื่อไหร่ ก็คงร้อง
อย่าให้มีงั้นเลยนะ นะ
technorati tags:
life,
politics,
traffic jam
2 responses to “A city we share.”
ต้องเดินกลับบ้านเหมือนกัน แต่รถเมล์จอดใกล้กับป้ายที่ลงประจำอยู่แล้ว ^^"ปล. บ้านผมอยู่ห่างจากตึกที่ไฟไหม้ในโบ้เบ๊ ไม่ถึง 100 เมตรเลยครับ = ="———–http://arthuran.net
เออ ทำไมหมู่นี้ไฟไหม้โบ๊เบ๊บ่อยจังวะ -_-" หวังว่าบ้านแกและบ้านจอยคงปลอดภัย 🙂