ผมตอบที่บล็อกพี่เค้าไม่ได้ เอาตรงนี้เลยละกัน
จาก pressjargon.org : ม๊อบมา… รถติด… ??? “… เห็นมีแต่คนบ่นว่ารถติดเพราะถนนถูกปิด ก็นึกว่าม๊อบก่อเรื่องอีกแล้ว ขอโทษที… เผลอเข้าใจไปว่า ม๊อบเป็นสาเหตุเพียงอย่างเดียวของการทำให้รถติด อิอิ”
อืมม…
ความสามารถในการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจกันและกันนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับว่า เรามีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ มีความรู้สึกร่วมกับสถานการณ์ตรงนั้นได้มากแค่ไหน
ภาคหนึ่ง ฝูงชนแสดงความจงรักภักดี เพราะเห็นว่ากษัตริย์คนนี้ดี ปกครองด้วยความเป็นธรรม
ภาคหนึ่ง ฝูงชนขับไล่ เพราะเห็นว่านายกคนนี้ไม่เหมาะ มีความไม่ชอบธรรม
เนื้อหานั้น แม้จะไม่เหมาะสมที่จะนำมาเปรียบ แต่ยกเอาเรื่องฐานะออกไปแล้ว เนื้อหาก็คือ ความเป็นธรรม
การยกย่องความเป็นธรรม การต่อต้านความไม่เป็นธรรม
เป็นการแสดงพลังเพื่อสื่อสารเรื่องเดียวกันนั่นเอง (ไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่จะสื่อสาร แต่หนึ่งในเรื่องนั้น ทั้งสองภาค มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่)
และการแสดงพลังด้วยการรวมตัวกันจำนวนมากเช่นนี้ ผลข้างเคียงในเรื่องของการจราจรก็ย่อมหนีไม่พ้นที่จะเหมือนกัน
แต่แต่ละคน ก็ มอง จัดการ และ อดทน กับมันได้ไม่เหมือนกัน
หรือเป็นเพราะว่า สิ่งที่บางคนมอง ไม่ได้มองถึง “ธรรม” ใน “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม”
หากสนใจเพียงการเฉลิมฉลอง ธงทิว และการได้ใส่เสื้อสีเหลือง ?
ความเข้าใจ และอดทน กับผลข้างเคียงของ
การเฉลิมฉลอง (..ที่ได้ธรรมปกครอง) กับ ความขัดแย้ง (..เพื่อให้ได้ธรรมปกครอง) จึงแตกต่างแบบ บวก กับ ลบ (ไม่ใช่ บวกมาก กับ บวกน้อย)
หรือว่าความจงรักภักดี ถูกขโมยไปใช้เป็น รัฐมาร์เก็ตติ้ง ซะเรียบร้อยแล้ว ?
รัฐมนตรีใส่เสื้อเหลือง = รัฐมนตรีจงรักภักดี = อยู่ในตำแหน่งปกครองต่อไปได้ … จะชอบธรรมหรือไม่ก็ได้
ทำไมยิ่งทำ ยิ่งแสดงความจงรักภักดี มันยิ่งห่างจากสิ่งที่ผู้ที่เราแสดงความจงรักภักดีนั้นคาดหวังต้องการ ?
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” … รับใส่เกล้ากันหน่อยเถอะ
2 responses to “essentially”
ช่วยเปลี่ยนคำว่า "เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม"เป็น "ปกครองแผ่นดินโดยธรรม"ได้มั้ยครับ ผมรู้สึกแปลกๆ ครับเพราะคำนี้ในหลวงพูด ไม่ควรให้ไอ้พวก *วาย นั่นใช้คำนี้หรอก แค่ให้เข้าใจในหลักการพอแล้วครับnote: ขออภัยที่ใช้คำรุนแรงครับ
Totally agree with this post.