Category: Life

  • Bangkok Middle Class Freeze

    Joined Bangkok Freeze yesterday. Mixed feeling. วันนี้ (เมื่อวานนี้) ไปดู Freeze กับเขามาด้วย อันที่มาบุญครองนี่ ได้ดูตอนท้าย ๆ ส่วนที่พารากอน ก็เดินไปทำเนียน ๆ เป็นนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปชาวบ้านที่กำลังแข็งอยู่ ถ่ายไปถ่ายมา ตัวเองก็แข็งไปด้วยซะงั้น (ทำหยั่งกะมันเป็นโรคติดต่อ) เจอพี่ยุ้ย พิท ฮันท์ และคนรู้จักหรือเพื่อนของคนรู้จักอีกจำนวนหนึ่ง ได้เจอ GX-100 อีกตัวแล้ว พร้อมวิวไฟน์เดอร์ด้วย กิเลสพุ่ง ไปกิน Holy Pizza ไม่อร่อยเหมือนที่เดือนที่แล้วกิน สั่งคนละอย่างด้วยแหละ รู้งี้กินพิซซ่าดีกว่า โค้กไม่มี รับเป็ปซี่ได้มั๊ยคะ … โอ้ว แต่ว่า กระเทียมจีน กระเทียมไทย คนยังไม่ได้แยกกัน กระเทียมมันก็เหมือน ๆ กันหมด เป็นงั้น ลิซ่าโทรมาบอกว่ามีอีกรอบนะที่พารากอน ไว้เจอกัน แต่ก็ไม่ได้เจอ (พี่ยุ้ยก็เท็กซ์มา thx) เหมือนจะมีหลายคนจำเขาได้ ที่ไปกันทั้งบ้านน่ะ…

  • 2 Mar 2008

    เมื่อคืนฝันว่า ยืมรถน้องคนเล็กไปมหาลัย จอดไว้ใต้ต้นไม้ พองานเลิกออกมา ปรากฎว่ากระโปรงหน้าถูกทุบมีรอยไหม้ ประตูหน้าถูกปลดด็อก และเครื่องถูกถอดหายไปแล้ว โอ้ว~ สะลึมสะลือเปิดตา เฮ้ย เรานอนกลิ้งมาอยู่ข้าง ๆ น้องคนที่ว่า ตกใจตื่นเลย กลัวมันรู้ว่าเราทำรถมันหาย เอ้ย นี่มันฝันไปนี่หว่า ไม่ใช่! วันนี้ไปเลือกตั้ง นั่งรถเมล์กลับบ้าน ราคา 3.75 บาท วู้ว~ กานต์ ยืนยง, เมื่อเราถูกสาป ให้จดจำประวัติศาสตร์อย่างกระพร่องกระแพร่ง วิทยากร บุญเรือง, ขอโทษด้วย ที่ผมเคยไปเลือกทักษิณ! technorati tags: me, bus, dream

  • la la la la

    เพิ่งกลับจากรับน้องภาค ไม่ได้ไปมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้ไปทุกปีเลย จนกระทั่งไปเรียนต่อ ก็ไม่ได้ไปอีกเลย มีพี่ ๆ บัณฑิตไปกันเยอะแยะ ทั้งบัณฑิตสด ๆ และบัณฑิตแก่ ๆ น้องไอทีรุ่น 12 เรารุ่น 2 พอบอกรุ่นไป ทั้งห้องร้อง หู~~~ … เสีย self ไปพักนึง ฝนตกทั้งเช้าทั้งเย็น ก็เลยไม่ค่อยได้ทำอะไรกันเท่าไหร่ วันแรกไปถึงก็เที่ยงคืนกว่า กินเหล้าคุยกันถึงเช้า เรียกน้อง ๆ มา ‘รับแสง’ (‘ประเพณี’ ที่เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ ๆ จนไม่น่าเชื่อว่ามันจะยังเหลือรอดมาถึงทุกวันนี้ เหมือนกับเกมหลาย ๆ อย่าง ที่เมื่อก่อนเป็นไง เดี๋ยวนี้ก็แทบไม่ต่างไปเท่าไหร่) ได้นอนตอนเจ็ดโมงกว่า ตื่นมาไม่รู้ตอนไหน เห็นฝนตก ก็เลยนอนต่อ ตื่นอีกทีก็บ่ายสามโน่น อดกินข้าว ต้องรอรอบเย็น ตอนดึกก็เปิดใจ บายศรีอะไรไปตามเรื่อง (ภาคบังคับ) แล้วก็บาร์บีคิว กินเหล้า (ภาคบังคับกว่า) และเปิดตัว ‘octopus’…

  • Dr. Sa-nguan life and thoughts

    จากหนังสือ งานกับอุดมคติของชีวิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ (หน้า 3-5) … ผมเข้าร่วมขบวนการกิจกรรมนักศึกษาตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 จนกระทั่งขบวนการกิจกรรมนักศึกษาถูกทำลายในวันที่ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 แม้ว่าจะไม่ใช่ประเภทมือไมค์ไฮปาร์ค ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของนักศึกษามหิดล แต่เราก็มีรูปแบบกิจกรรมที่ไปเสริมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในแนวทางของเรา ที่ผมมองว่าสังคมนักศึกษาขณะนั้นเป็นสังคมอุดมคติ ก็เพราะในขณะนั้นชีวิตนักศึกษาเป็นสังคมรวมหมู่ที่ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายอย่างเดียวกันก็คือ การที่จะสร้างสังคมที่เป็นธรรม และก็ทำให้ประเทศชาติเป็นประเทศที่มีความยุติธรรม ประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกทอดทิ้ง ผมจำได้ว่ารู้สึกรักและนับถือเพื่อนนักศึกษาหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ทุ่มเทชีวิตทั้งกายและใจเพื่อที่จะรับใช้ประชาชน ซึ่งแรงบันดาลใจและตัวอย่างจากคนเหล่านี้ ทำให้ผมมีแนวคิดและมีความฝังใจว่า อยากจะเห็นสังคมรวมหมู่ที่ดีที่ทุกคนแบ่งปันเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ซึ่งแนวความคิดนี้เป็นฐานคิดที่สำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ว่า เราจะไม่ปล่อยให้พี่น้องในสังคมเดียวกันนี้ต้องป่วยตายและตายไปโดยไม่ได้รับการดูแลด้วยเหตุว่าเขาไม่มีเงิน … เมื่อมีการปราบปรามนักศึกษาผมเองก็มีชื่ออยู่ในบัญชีที่ต้องถูกจับกุมเช่นเดียวกับเพื่อนนักกิจกรรมคนอื่น ๆ อีกหลายคน ในเวลานั้นพวกเราแต่ละคนต้องตัดสินใจเลือกทางชีวิตของตัวเอง ในจำนวนไม่กี่ทางเลือกที่มี ผมตัดสินเลือกที่จะอยู่ต่อสู้ในเมืองต่อไป แม้ว่าต้องหลบซ่อนตัวอยู่ระยะหนึ่งก็ตาม ในขณะที่เพื่อน ๆ จำนวนหนึ่งเลือกที่จะไปจากเมืองเพื่อต่อสู้กับรัฐบาล … นอกจากนั้น ความที่ผมไม่ถูกจับ แม้จะมีรายชื่อตามจับของทางการอยู่ ทำให้ผมไม่สามารถจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การรับปริญญาต่อหน้าพระพักตร์และมีรูปถ่ายไปติดที่บ้าน…

  • masked rider

    ช่วงนี้เปื่อยอยู่ครับ เป็นหวัด ไข้ ไอ เปิดคอมตอบอะไรได้ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ แต่ทำงานยาว ๆ ไม่ได้เลย ปวดหัว ไปไหนมาไหน ก็ดูจะมีคนป่วยเยอะเหมือนกัน ไอค๊อกแค๊ก เป็นตั้งแต่กลับจากฮ่องกง (ไปเที่ยวปีใหม่กับที่บ้าน) ไม่รู้จะเป็นหวัดนกรึเปล่า ฮี่ ตอนอยู่ที่นั่น เห็นคนใส่ผ้าปิดปากเดินไปเดินมา ตอนแรกเราคิดว่าเขาคงใส่เพราะกลัวติดหวัดจากคนอื่น ฮ่องกงมันเสี่ยง เคยระบาด พี่สาวบอก ไม่ใช่ เขาใส่เพราะเขากลัวจะเอาหวัดไปติดคนอื่นตะหาก เอ้า เหรอ เราเพิ่งรู้ แล้วก็นึกได้ว่า ตอนไปงานประชุม SNLP 2007 ก็มีคนญี่ปุ่นคนนึงใส่เหมือนกัน ตอนแรกก็นึกว่าอะไร อ๋อ เป็นหวัด วันที่สองหายดีก็ไม่ใส่แล้ว เป็นเรื่องที่ดีแฮะ ในใจคิดตอนที่คุยกับพี่สาว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาใส่เองในเวลาไม่นานหลังจากนั้น กลับมาใหม่ ๆ ก็แค่ครั่นเนื้อครั่นตัวเฉย ๆ สักพักเริ่มปวดหัว มีน้ำมูก ไม่กี่วันก็เริ่มไอ พอไอไปได้วันสองวัน ก็เลยตัดสินใจ ไปเซเว่น ซื้อผ้าปิดปากมาใช้บ้าง กลัวคนใกล้ตัวติดน่ะ พ่อนี่ก็ไออยู่…

  • my stomach

    ท้องเสียมาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ถ่ายบ่อยและถ่ายเป็นน้ำ ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวมันก็หายเอง เพราะก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนหลายที ทุกทีก็แค่พยายามกินอะไรร้อน ๆ เดี๋ยวมันก็หาย วันจันทร์กับอังคาร กินก๋วยเตี๋ยวปลาไปตอนเย็น เช้าวันพุธ ก็ดูท่าจะโอเคแล้ว มันยังปวด ๆ นิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ก็ยังไปสัมมนาที่แลบได้ กลางวันก็กินข้าวคลุกกะปิที่โรงอาหาร ก่อนจะขึ้นรถกลับตอนสี่โมง ก็ถ่ายไปอีกรอบ แต่ก็คิดว่ามันไม่ได้หนักมาก ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว ตอนเย็น ๆ รู้สึกหนาวมาก แต่เราคิดว่าเป็นเพราะห้องสมุดศูนย์รังสิต (ตรงใกล้ ๆ ว.จ. ไม่ใช่หอป๋วย) เค้าเปิดแอร์เย็นเกินไปเอง (นศ.บ่นเยอะ หอป๋วยเองก็เหมือนกัน มีกระดาษความเห็นเขียนประมาณว่า “หมีขาวจะออกมาฆ่านศ.แล้ว”) ไม่ได้คิดว่าตัวเราไม่สบายอะไร แล้วคืนวันนั้น ไม่รู้นึกครึ้มยังไง เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วเห็นคนอื่นเค้ากำลังหยิบเบียร์กัน พอกลับหอไปเราก็เลยเอาบ้าง (ไม่ได้เจียมเลย) ปรากฎว่า เช้าวันพฤหัส อาการยิ่งหนัก ทั้ง ๆ ที่คืนพุธที่ว่ากินเบียร์ ก็กินไปแค่ไม่ถีง 1/5 ของกระป๋อง(เล็ก) บ่ายพฤหัสก็ไปติว NetBeans น้อง แล้วก็กลับศูนย์รังสิต วันนั้นทั้งวันกินไปแต่ ไส้กรอกพันเบคอน…

  • คปส. สัมภาษณ์เรื่อง FACT อินเทอร์เน็ต และการปฏิรูปสื่อ

    “ที่เอาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพราะไม่อยากเอาพ.ร.บ.ใหญ่กว่านี้” — พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม (DSI), 8 พ.ย. 2550 พี่ที่คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ส่งอีเมลมาสัมภาษณ์ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้ว เพิ่งมีเวลาตอบกลับไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วันศุกร์เขาโทรมาอีกที บอกว่าขออนุญาตรีไรท์ใหม่ เพราะจดหมายข่าวที่เขาจะเอาไปลง มันบางนิดเดียว ลงให้ได้สามหน้า แต่ที่ผมส่งไปมันเก้าหน้ากว่า ๆ ได้ 😛 เขาจะแบ่งลงเป็นสองฉบับแล้วกัน สัมภาษณ์ลงฉบับนี้ และเลือกประเด็นบางอย่างไปลงฉบับหน้า ผมบอกไปว่ารีไรท์ตามสบายเลยพี่ เพราะพี่รู้จักกลุ่มผู้อ่านดีกว่าผม จะได้เขียนให้เป็นภาษาที่กลุ่มผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย ๆ เลยขอเอาฉบับเต็ม ๆ ที่ส่งไปให้เขาทีแรก (แก้ไขนิดหน่อย) มาลงในบล็อกนี้ (ในนี้ผมใช้ “บล็อก” สำหรับ “blog” และ “บล็อค” สำหรับ “block”) เพื่อให้รับกับงานสัมมนา “พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่และการคัดค้านของโลกไซเบอร์ : จากตำราสู่การปฏิบัติจริง” เมื่อ 8 พ.ย. ที่พึ่งผ่านมา (ดูความเห็นคนอื่น ๆ: wonam, คนชายขอบ (พร้อมแผ่นนำเสนอ), วิดีโอสัมภาษณ์วิทยากร (ดาวน์โหลด [wmv]))…

  • ที่ ๆ เราอยู่ร่วมกัน

    มองออกไปนอกหน้าต่างรถเมล์ หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ตอนเย็น ๆ รถติดไฟแดง รถเก๋งคันหนึ่งลักไก่วิ่งย้อนศร หวังมาแทรกเข้าข้างหน้า “โชคไม่ดี” ไฟจราจรปล่อยรถอีกด้านมาแล้ว รถกระบะคันหนึ่งวิ่งมาตามเลนของตัว และเจอกับรถเก๋งคนนั้น ไม่ใครก็ใครต้องถอย ไม่มีที่หลบ ไม่มีรถอื่นตามรถเก๋งมา เช่นเดียวกัน ไม่มีรถอื่นตามรถกระบะมา ดูตามพื้นที่แล้ว รถกระบะน่าจะถอยง่ายกว่า เพราะเพิ่งเข้ามาในเลนได้นิดเดียว ยังมีที่ให้ถอยไปได้เพื่อให้รถเก๋งเข้ามาหลบในเลนซ้ายได้ ดูเหมือน “แล้งน้ำใจ” ? รถกระบะบีบแตรทันที และขยับรถเดินหน้าเข้าใกล้รถเก๋ง ดูท่าทางเอาจริง เสียงแตรถี่ขึ้น ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ รถเก๋งถอยยาว มีรถกระบะรุกไล่ไปตลอดจนลับตา ถ้าคุณเป็นรถกระบะ คุณจะทำเช่นนี้ไหม ? ถ้าคุณเป็นรถเก๋ง คุณจะลักไก่วิ่งย้อนศรไหม ? และถ้าทำ คุณจะทำอย่างไร เมื่อเจอรถกระบะ ? เมืองที่เราอยู่ร่วมกัน ถนนที่เราใช้ด้วยกัน ถนนที่เราเป็นเจ้าของร่วมกัน แปลว่า ในขณะที่เราเป็นเจ้าของ คนอื่น ๆ ก็เป็นเจ้าของมันด้วย สังคมที่เราอยู่ร่วมกัน กติกาบางอย่างที่เราตกลงกัน เราปฏิบัติตามนั้น ด้วยความคาดหวังว่าคนอื่นจะทำตามกติกาด้วย เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสะดวก ไม่ต้องมาทำความเข้าใจตกลงอะไรกันใหม่ไปทุกเรื่องทุกครั้ง ต่างคนต่างรู้ว่าใครจะซ้ายจะขวา…

  • 23 June 2007

    ตอนนี้ บนเคเบิ้ลทีวี ฉาย เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล ฝนเพิ่งหยุดตก หลังจากตกมาทั้งเย็น ยังไม่ได้ไปซื้อหมึกพิมพ์ให้พ่อ พรุ่งนี้ครบรอบ 75 ปี การปฏิวัติสยาม

  • bact’ is B

    เราเรียกร้องให้ผู้คนลุกขึ้นต่อต้านการตื่นเช้า คือ ข้อความรณรงค์ที่กลุ่ม B-Society ซึ่งก่อตั้งโดย ดร. คามิลลา คริง ใช้เรียกร้องความสนใจจากประชาชนในเดนมาร์ก โดยอ้างถึงผลงานวิจัยที่สถาบันพันธุศาสตร์หลายแห่งได้สรุปไว้ว่า ‘เวลาชีวภาพ’ ที่กำหนดตารางเวลาในชีวิตประจำวันของมนุษย์ขึ้นอยู่กับยีนควบคุมเวลาชีวภาพ อันมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ทำให้มีการแบ่งประเภทของบุคคลเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ กลุ่ม A และ กลุ่ม B กลุ่มเคลื่อนไหวในเดนมาร์กที่ใช้ชื่อ B-Society ได้ประกาศว่าการครอบงำวิถีชีวิตและเวลาการทำงานที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน ถูกกำหนดตามความเคยชินของบุคคลกลุ่ม A ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตของคนกลุ่ม B อย่างหนัก เนื่องจากเวลาชีวภาพของคนกลุ่ม B ไม่เหมาะกับเวลาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมง เย็น การตื่นเช้าตรู่เพื่อมาทำงานในเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพวกเขาลดลง และสาเหตุนี้จะนำไปสู่การกล่าวหาว่าคนกลุ่ม B คือพวกเกียจคร้าน, ขาดความกระตือรือร้น และไม่มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้กลุ่ม B-Society ถูกก่อตั้งขึ้นในเดนมาร์กเมื่อ 4 เดือนก่อน และปัจจุบันทางกลุ่มมีสมาชิกถึง 4,800 คน…