ThaiMung


คุณมีที่ที่เคยไปบ่อย ๆ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ไปแล้วรึเปล่า ? ผมว่าต้องมีแหละ ทุกคน

ลานไทมุง แหล่งชุมนุมของ .. ใครล่ะ ก็ ไทมุง ล่ะมั้ง ผู้คนง่าย ๆ สบาย ๆ รักการอ่าน ชอบการเขียน สังสรรค์กันเป็นชุมชนเล็ก ๆ บนอินเทอร์เน็ต .. เป็นเว็บบอร์ดที่ผมเคยเข้าไปเดินเล่น ยิงตัวอักษร อยู่ประมาณปีหรือสองปีได้ ช่วงที่เพิ่งจบป.ตรี-เริ่มทำงานใหม่ ๆ

แม้ว่าจะมีคนสารพัด แต่ดูเหมือนสิ่งนึงที่เกือบทุกคน (ถ้าไม่ทั้งหมด) จะมีร่วม ๆ กันคือ ชอบวงเฉลียง และชื่นชมพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ (คอลัมน์ คุยกับประภาส)

ผมยังนึกไม่ออกว่าตอนนั้นหลุดไปอยู่ในเว็บบอร์ดนั้นกับเค้าได้ยังไง แต่ไม่ใช่เพราะเฉลียงหรือพี่จิกแน่ (ผมชอบทั้งสองอย่าง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ผมโผล่เข้าไป)

นึกไม่ออกจริง ๆ

แม้จะหาเหตุผลไม่ได้ ว่าหลุดไปอยู่ในนั้นได้ยังไง แต่ผมก็มีความสุขดีที่ได้แลกเปลี่ยนคนคิดเห็นอะไรต่าง ๆ บนเว็บนั้น รู้สึกว่าคนที่นั่นคุยรู้เรื่อง — ไม่ใช่ว่าทุกคนคิดเห็นอย่างเดียวกัน แต่ทุกคนพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และพร้อมยิ่งกว่า ที่จะสวนกลับ(ด้วยตัวอักษร)ถ้าเกิดเค้าเห็นว่า เอ้ย ไม่ใช่ม้าง เค้าคิดงี้ ๆ ล่ะ — และนั่นก็คือความสนุก

สนุกไปกว่านั้นก็คือ เหมือนกลุ่มคนที่นั่น จะสามารถมองเรื่อง ๆ เดียว ได้จากสารพัดแง่มุม ซึ่งหลายครั้ง เป็นมุมที่ไม่เคยนึกมาก่อน

ผมว่าผม “ติด” เว็บบอร์ดครั้งแรกก็ที่นี่แหละ แม้ว่าก่อนหน้านั้นผมจะขยันเข้าไปในเว็บบอร์ดพันทิป.คอมอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะห้อง ComSci แต่ถ้านับที่ ๆ ผมเขียนอะไรได้ยาว ๆ เป็นเรื่องเป็นราวในอินเทอร์เน็ตได้เป็นครั้งแรกเนี่ย (ที่เริ่มต้นโดยผม เป็นความคิดของผม ไม่นับการตอบคำถาม) ก็คงต้องเป็น ลานไทมุง นี่แหละ — ชื่อ bact’ ก็น่าจะใช้ครั้งแรกที่นี่ด้วย (ก่อนหน้านี้ที่พันทิป.คอม ใช้ชื่อ Bacteria! — ทุกวันนี้ล็อกอินของพันทิปก็ยังเป็นอันนั้นอยู่)

ในตอนนั้น มีความรู้สึก ใคร ๆ ก็เป็นเพื่อนเราไปซะหมด แม้จะไม่เคยเห็นหน้ากันเลย

แถมในตอนนั้นยังแอบไปมีเรื่องกุ๊กกิ๊กเล็กน้อยด้วย กับสาวถาปัด (แอนนา – นามสมมติ) ประมาณว่ามีใจให้กันผ่านทางตัวอักษร โอ้ โคตรจะโรแมนติก ก่อนจะได้เจอกันในงานมีตติ้งของเว็บบอร์ด เราไปเที่ยว/กินข้าวหลังเลิกงานครั้งสองครั้ง หรืออาจจะมากกว่านั้น ที่จำได้ครั้งนึงก็คือ ที่ร้านกรีนพีช (Green Peach) ตรงสยาม (ที่ที่ผมกะเพื่อน ๆ ชอบนัดเจอกัน/กินเหล้าในสมัยนั้น) และก็มีไปเดินเล่นแถวปากคลองตลาด และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ลองขับรถของคนอื่น (ที่ไม่ใช่คนในบ้าน) —
อะไร ๆ มันก็ดีแหละ แต่เมื่อเธอถามอะไรขึ้นมาคำนึง ฮ่ะ ๆ (หัวเราะเสียงแหบ) ตามฟอร์ม ผมเป็นฝ่ายวิ่งหนีอีกแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง (หรือเราเป็นมนุษย์ประเภท ขี้เหงา แต่ไม่อยากมีแฟน ?) — ผมเคยเก็บอีเมลทุกฉบับที่คุยกัน ไว้ในเมลบ็อกซ์ด้วย ก่อนจะลบมันทิ้งไปทั้งหมดในตอนหลัง (เพื่อเอาเนื้อที่ไปเก็บอย่างอื่น! ก็สมัยนั้นมันยังไม่ Gmail นี่นา) แหม อะไรมันจะแหววขนาดนี้

เฮ้! นี่ไม่ใช่บล็อกกุ๊กกิ๊ก แนว “ไดอารี่ที่รักจ๋า” ! พอเถอะ

กลับมาที่ ลานไทมุง ต่อ

ชีวิตนี้ เคยไปงานมีตติ้งที่ประมาณว่าคนในอินเทอร์เน็ตที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาเจอกันมั๊ยครับ ?
ผมแนะนำว่าลองสักครั้ง มันสนุกดีน่ะ

ครั้งแรกของผมคือ สมัยโน่นเลย มัธยม ตอนนั้นเล่นบีบีเอส (กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์) อินเทอร์เน็ตยังไม่มีให้เล่นหรอกในเมืองไทย ก็มีนัดเจอกันนี่แหละ จำไม่ได้แล้วว่าของศูนย์ไหน นัดกันที่เวิล์ดเทรด (ปัจจุบันคือ เซ็นทรัลเวิล์ดพลาซ่า) นี่แหละ ก็ไปกินข้าวกันที่ร้านใน ZEN คนที่ไปนี่อายุเยอะกว่าผมหมดเลย ก็สนุกดี ได้เจอหน้าของคนที่เห็นกันแค่ตัวหนังสือ ก็นั่งฟังพี่ ๆ เค้าคุยกัน
(เรื่องเศร้าหลังจากนั้นไม่นานคือ มีพี่คนนึงที่เป็น sysop ของบีบีเอสชื่อ BIOS ไปรับน้องกับมหาลัย แล้วรถทัวร์คว่ำเสียชีวิต (ถ้าจำไม่ผิด พี่เค้าจะเอนท์ติดวิศวะคอมเกษตร) ผมไม่แน่ใจว่าในมีตติ้งครั้งนั้นผมได้เจอพี่เค้ารึเปล่า)

ครั้งต่อมา ก็มีตติ้งไทมุงนี่แหละ งานที่ผมไปร่วมครั้งแรก ก็ที่ร้านนมสดตรงเมเจอร์รัชโยธิน (ล่าสุดที่เห็น กลายเป็นร้านอย่างอื่นไปแล้ว) ซึ่งก็เป็นเหมือนสถานที่ “มาตรฐาน” (default) ของมีตติ้งไทมุง นึกอะไรไม่ออก ก็เอาที่นี่แหละ — อย่างตอนคอนเสิร์ต “เรื่องราวบนแผ่นไม้” คอนเสิร์ตครั้งล่าสุด (ไม่อยากจะใช้คำว่า “สุดท้าย”) ของวงเฉลียง แฟน ๆ เฉลียงในเว็บไทมุงได้โควตาจองบัตรล่วงหน้าได้ เราก็มารับบัตร/ชำระเงินกันที่นี่แหละ — สนุกดีครับ คือถึงจะไม่เคยเห็นหน้า แต่ก็เคยคุยกันมาก่อนน่ะ ก็มีอำ ๆ กัน เอ๊ะ ใครเป็นใครในเว็บบอร์ด ทายกัน หรือ “นามจอ” (screen name) ที่แต่ละคนใช้เนี่ย มันมีที่มายังไง

ดูเหมือนประชากรส่วนใหญ่ของไทมุง จะเป็นผู้หญิง ไปมีตติ้งที่ไร ผู้หญิงเยอะกว่าตลอด
โดยส่วนใหญ่นี่ สไตล์จะเป็น อ่ะ จะเรียกว่า “เด็กแนว” ก็ไม่ได้ เพราะสมัยนั้นมันยังไม่มีคำนี้ (และก็คงคนละแนวน่ะนะ)
แต่ก็เรียกได้ว่า น่ารักใช้ได้เหมือนกัน หมายถึงนิสัยใจคอ ความคิดความอ่านอะไรงี้ เปล่า ไม่ได้จะไปหาแฟน (เพราะเค้ามากะแฟน) คนแบบนี้เก็บไว้คุยเป็นเพื่อนนาน ๆ ดีกว่า (รึเปล่า ? แต่เอาเข้าจริง ผมก็ไม่เคยติดต่อกับใครอีกเลย อันเป็นเรื่องปกติของผม เพื่อน ๆ รู้กันดี) อ้อ น้อง…. ชื่ออะไรนะ น้องที่เค้าชนะได้เป็นแชมป์แฟนพันธ์แท้เฉลียงอ่ะ ก็มามีตติ้งไทมุงแทบทุกครั้ง (ผมไม่ประหลาดใจเลยที่น้องเค้าได้แชมป์ คือโคตรเก่งอ่ะ แม่นมาก)

อีกสิ่งนึงที่เหมือนจะฮิต ๆ กันในช่วงนั้น ก็คือ หนังสือทำมือ คนในเว็บบอร์ดไทมุงนี่ก็เขียนกันเยอะทีเดียว (ผมก็เคยคิดจะเขียนนะ แต่ขี้เกียจซะก่อน ปกติ) มีตติ้งก็เลยเป็นโอกาสนึงที่จะเอา ‘ของ’ มาแลกกันได้ นอกเหนือจากการโพสต์เรื่องให้อ่านกันในเว็บบอร์ดแล้ว (ในตอนนั้น งานแฟตเฟสครั้งแรก ยังไม่เกิด)

มีตติ้งครั้งสุดท้ายที่ผมไปร่วม คือครั้งที่จัดที่ สวนสันติชัยปราการ
ครั้งนั้นประทับใจมาก เพราะว่าได้คุยกับพี่จิกตัวเป็น ๆ ได้ถ่ายรูปคู่ด้วย (รูปนี่ไม่รู้หายไปไหน เซ็ง ถ้าถามไอ้โป้มันน่าจะยังมีเก็บไว้อยู่ น่าจะเป็นกล้องมัน) พี่จิกบอกประมาณว่า bact’ ใช้ภาษา ใช้จังหวะได้โอเคนะ จากที่อ่านที่ตอบ ๆ ในกระทู้ .. ทำนองนี้ (ถึงแม้เราจะพบหน้ากันแล้ว แต่คนในมีตติ้งแทบทุกคน ถ้าเกิดไม่ได้รู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว ก็จะเรียกหากันด้วยนามจอ แรก ๆ ก็แปลก ๆ ดีเหมือนกัน แต่สักพักก็ชิน) เรานี่ก็ โห ปลื้ม อยากจะฮึดขึ้นมาเขียนอะไรจริง ๆ จัง ๆ มั่ง … แต่มาถึงตอนนี้ก็อยากจะบอกพี่จิกว่า เหอะ ๆ จนป่านนี้แล้วผมก็ยังไม่ได้เขียนอะไรเป็นเล่มขึ้นมาได้เลยครับ 😛

หลังจากมีตติ้งที่สวนสันติฯ (และการวิ่งหนีสาวในเวลาไล่เลี่ยกัน – คิดว่า) ผมก็ค่อย ๆ ลดการเข้าไปสนทนาในลานไทมุงลง เหมือนกับหมดความสนใจ หรือหมดความท้าทายอะไรไปแล้ว

บางคนว่า ผู้คนในลานไทมุง เป็นพวก “สุขนิยม” (เหมือนกับนิตยสาร “a day” ที่เกิดตามหลังจากนั้นสักพัก) นั่นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง เพราะอยู่ดี ๆ ผมก็เริ่มมองโลกในแง่ร้ายขึ้นร้ายขึ้นซะเฉย ๆ (ไม่รู้มึงจะจริงจังกะชีวิตไปเยอะแยะทำไม) — ผมไม่ได้ต่อต้าน หรืออยู่ตรงข้ามกับ “สุขนิยม” แต่อย่างใด เพราะผมเองก็เคยเป็น และบางจังหวะ ในทุกวันนี้ ก็ยังอย่างกลับไปเป็น (ผมมีความรู้สึกว่า สมัยก่อน ชีวิตผมมีความสุขกว่านี้เยอะ คือทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่ แต่คิดมาก/แง่ร้ายเยอะไปหน่อย บ้า) และคิดว่า การดำเนินชีวิตอย่าง ไทมุง ก็น่าจะทำให้โลกสงบสุขได้ .. เพราะดูเหมือนทุกคนที่นั่นจะใช้ชีวิตเข้าทำนอง “อย่างพอเพียง” พอใจในสิ่งที่ตนเองมี .. ออก ฮิปปี้ ๆ ยุคพลังดอกไม้ หน่อยเหอะ ว่างั้น — ผมชอบนะ แต่บางทีมันเฝือน่ะ ก็เลย ..

ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ผมยังได้กลับเข้าไปแวะเวียนลานไทมุงบ้าง นาน ๆ ที บางครั้งก็โพสต์อะไรทักทาย … แต่ไม่เคยรู้สึกอยากกลับไป “อยู่” ในนั้นอีก … มันเหมือนไม่ใช่บ้านเราแล้ว ถ้าจะพูดอย่างนั้นก็ได้ .. แม้ว่าคนเก่า ๆ ที่เรารู้จักบางคนจะยังอยู่ แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่นแล้ว

เคยเป็นอะไรอย่างนี้บ้างรึเปล่า ?

ขอจบดื้อ ๆ ตรงนี้ เพราะไม่รู้จะเขียนอะไรต่อไป

ลานไทมุงthaimung.net/lanthaimung

ป.ล. กระทู้เก่า ๆ ที่ยังพอค้นขึ้นมาได้ สมัยแรก และ สมัยที่สอง (หลังยกเครื่องบอร์ดใหม่)

technorati tags: ,


10 responses to “ThaiMung”

  1. เคยอ่าน a day อยู่พักหนึ่งแล้วอยู่ๆ ก็เลิกอ่านเลยรู้สึกว่ามันขาด "แก่น" บางอย่าง(อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่า แก่นอะไร)ความคิดสร้างสรรค์ มันดีนะแต่สำหรับผมถ้ามันเกิดขึ้น โดยขาด "คุณค่าที่ยึดถือ" ลึกๆข้างในมันดู กลวงๆ น่ะคอลัมน์ คุยกับประภาสก็อ่านบ่อยนะเมื่อก่อนชอบแต่หลังๆ ก็รู้สึกเฉยๆเหมือนกับว่ามันคุ้น pattern นั้นแล้ว

  2. เมื่อค้นตัวตนของเราเจอแล้ว สิ่งที่เป็นตัวของเราจริงแท้ (เห็นนักเขียนสมัยนี้เรียกกันว่า อัตตลักษณ์) ก็จะค่อยๆ ปรากฏออกมาส่วนปลีกย่อยต่างๆ หากมีมากกว่าโครงร่างใหญ่ ก็จะทำให้แปลกแยกออกไป

  3. ครั้งแรกของผมคือ สมัยโน่นเลย มัธยม ตอนนั้นเล่นบีบีเอส (กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์) อินเทอร์เน็ตยังไม่มีให้เล่นหรอกในเมืองไทย ก็มีนัดเจอกันนี่แหละ จำไม่ได้แล้วว่าของศูนย์ไหน นัดกันที่เวิล์ดเทรด (ปัจจุบันคือ เซ็นทรัลเวิล์ดพลาซ่า) นี่แหละ ก็ไปกินข้าวกันที่ร้านใน ZEN คนที่ไปนี่อายุเยอะกว่าผมหมดเลย ก็สนุกดี InfoservBBS(เรื่องเศร้าหลังจากนั้นไม่นานคือ มีพี่คนนึงที่เป็น sysop ของบีบีเอสชื่อ BIOS ไปรับน้องกับมหาลัย แล้วรถทัวร์คว่ำเสียชีวิต (ถ้าจำไม่ผิด พี่เค้าจะเอนท์ติดวิศวะคอมเกษตร) ผมไม่แน่ใจว่าในมีตติ้งครั้งนั้นผมได้เจอพี่เค้ารึเปล่า)ครั้งนั้นดนัทธ์ไม่ได้ไป

  4. hey! thanks!I'm "Apollo Zyx" na, if you can recognised.(used to open a small one for few months, "Smile Site")such a small world, eh ?(also paying a respect to P'Danut soul)

  5. ข้อ1.ดีใจมีไทยลานมุง..เอาไว้ โพส อีก..เย้ข้อ2.นัดเจอผู้ชายครั้งแรกปาร์ตี้ไลน์ค่ะ1577 1509 สยาม แสควร์ ..ตอนนุ้นมีโชกุน กั๊ดจัง อาร์มี่ ชินโซและอีกมากมาย ….ก็ยังรู้จักจนถึงปัจจุบัน หลายปีและตั้งแต่ม.ต้นนู้น (แรดแต่เด็กค่ะ)ตอนนั้นคอมพิวเตอร์ เครื่องละแสนวะฮ่ะฮ่ะ แล้วก้เล่นtelnet นัดเจอเด็กในม. แล้วก็ icq trillian msn yahoo(aol เล่นไม่เป็น)ขาแชท…ทถัดมาเกมส์ออนไลน์ก็ยังเข้าไปอัพสิกลแชทแล้วก็มาถึงบลอค..ก็มาดึงคุณแชท..วะฮุ้

  6. แวะมาเยี่ยม อ่านแล้วขำๆดีเนอะ

  7. ขอบคุณที่ยังจำได้ แม้จะไม่ใช่ความทรงจำที่ดีนัก -_-'ถ้าบังเอิญเจอหน้า ไม่ต้องวิ่งหนีแล้วนะ…จาก แอนนา (นามสมมติ) คนนั้น

Leave a Reply to AnonymousCancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.