มารยาทเมือง


เมืองคนมันเยอะ แย่งกันกิน แย่งกันใช้ ถ้าอยู่กับแบบไม่มี ‘กฏเกณฑ์’ อะไรเลย ก็ท่าทางจะปวดหัว

วันนี้จึงขอเสนอ มารยาทในการใช้ชีวิตร่วมกันในเมือง

  • ไม่หยุดเดินในที่แคบ หรือยืนขวางทางแยก, ประตู/ทางเข้าออก
  • ขึ้น/ลงสะพานลอย เดินชิดขวา (จะได้ไม่ไปเดินชนกันกับคนที่สวนมา)
  • ขึ้น/ลงบันไดเลื่อน ยืนชิดขวา (เว้นที่ด้านซ้ายให้คนที่รีบเดินผ่านไปได้)
  • เข้าลิฟต์ให้เดินเข้าไปให้สุด (คนอื่นจะได้มีที่เดินเข้ามาได้บ้าง) (ใช้กับขึ้นรถเมล์ด้วย)
  • ลิฟต์จอดทุกครั้ง ให้ดูด้วยว่ามีคนข้างหลังเค้าจะออกมั๊ย หลบ/เดินออกมา เปิดทางให้คนข้างในออก (ใช้กับรถเมล์ด้วย)
  • ยืนรอรถเมล์ที่ป้าย ไม่ต้องเดินลงไปรอที่ถนน (รถมันจะเข้าจอดไม่ได้ ติดอีก)
  • ไม่เรียกรถแท็กซี่/สามล้อ + ไม่จอดรับส่ง ตรงทางแยก หัวมุม ทางเข้าออก หรือที่ห้ามจอด/ที่คับขันอื่นๆ รวมทั้งบริเวณป้ายรถเมล์ด้วย (ตัวคุณกับเพื่อน สำคัญกว่าคนทั้งป้าย? ทั้งถนน?)
  • ใช้โรงอาหาร หรือเข้าร้านอาหารแบบบริการตนเอง กินเสร็จให้เก็บขยะ/จานออกไปให้หมด ไปทิ้ง/วางในที่ๆ เค้าจัดไว้ให้ ทำอะไรเลอะก็เช็ดด้วย (คนอื่นๆ เค้าจะได้มาใช้โต๊ะต่อได้ ตอนเรามาโต๊ะมันก็สะอาดอยู่ ตอนออกไปก็ต้องสะอาดเหมือนกัน ของแบ่งกันใช้) (ห้องน้ำก็เหมือนกัน)
  • ซื้อของ รอรับบริการอะไรก็ตาม ต่อแถว (ใครๆ ก็อยากได้เร็วๆ ทั้งนั้น)
  • ถ้ามีใครแซงแถว สะกิด แล้วชี้ไปที่ท้ายแถว (ยกเว้นว่าเค้าจะมาคลอดลูก หรือถูกใครแทงมา)
  • ถ้าไม่เชื่อกันอีก ด่า (จะอายทำไม ทีมันยังหน้าด้านแซงมาเลย)
  • ถ้ายังไม่สนใจ ก็แจ้งผู้ให้บริการ (คนคิดเงินหรืออะไรก็ว่าไป)
  • ถ้าผู้ให้บริการไม่สนใจ ก็ด่ามันด้วย เลิกซื้อของมันซะ แล้วป่าวประกาศ บอกปากต่อปากให้ทั่ว (แค่เรื่องลำดับการให้บริการก่อนหลังของลูกค้ายังไม่สนใจ แล้วจะมาให้บริการอะไรอย่างอื่นได้?)

พอแค่นี้ดีกว่า 😛

ที่บอกมาทั้งหมดนี้ ตัวผมเองทำทุกข้อ ยกเว้นเรื่องด่า บางทีก็ขี้เกียจ
แต่ตามจริงเราไม่ควรขี้เกียจที่จะด่า จริงๆ จะให้ถือเป็น หน้าที่ ก็คงจะพอได้ เรื่องด่านี่
สังคมดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง, เห็นเค้าแซง รู้ว่าผิด ก็ต้องเตือนกัน, ไม่เชื่อก็ด่าซะ ให้ได้อาย

คงจะโชคดีด้วย ว่าที่แล้วๆ มา ยังไม่เคยไปด่าลูกคนใหญ่คนโตที่ไหน ชีวิตจึงเหลือรอดมาถึงปัจจุบัน
มีกรณีที่เซ็งที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่ต่อแถวซื้อข้าวที่โรงอาหารกลาง สมัยป.ตรี
ปรากฏว่าลุงที่เราไปชี้ให้เค้าไปต่อแถวน่ะ เป็นอาจารย์ แล้วแกก็โกรธมาก สวน(เสียงดัง)กลับมาว่า ผมเป็นอาจารย์นะ จะต้องรีบไปสอน แล้วก็ไม่สนใจ เดินแซงทุกคนไปซื้อแล้วเดินออกไปเลย

โคตรแค้น อ๋อ เป็นอาจารย์แล้วแซงได้เหรอไงวะ ต้องรีบไปสอน
แล้วนักศึกษาไม่ต้องรีบไปเรียนเหรอ? เข้าห้องเรียนสายเพราะว่าโดนอาจารย์แซงแถวซื้อข้าวนี่จะโดนตัด attendance มั๊ย?
ไม่รู้สอนอยู่คณะไหน ถ้ามีเรียนด้วยนะ จะกรอกใบประเมินให้สนุกเลย

โกรธ

,

8 responses to “มารยาทเมือง”

  1. อืม เรื่องบันไดเลื่อนนี่ ตอนนี้มีรถใต้ดินใช้แล้ว เดี๋ยวคงค่อยๆ เปลี่ยนกันมั้ง เมื่อก่อนมีแต่ในห้าง ไม่ค่อยมีใครรีบร้อนอันที่ผมหงุดหงิดคือเดินตลาดข้างถนน แล้วคนข้างหน้าเดินช้านี่ล่ะ ชอบมีป้าแก่ๆ หลายๆคนแวะซื้อกับข้าวขวางทางไว้ ตกรถเมล์บ่อย

  2. เรื่องลิฟต์เนี่ยอาจจะซับซ้อนกว่านั้น เพราะลิฟต์มีหลายชนิด บางตัวใหญ่การเข้าแล้วไปยืนข้าง ๆ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า การเข้าไปข้างในสุดแล้วถือของมันไม่สะดวกมาก ๆเวลาออกจากลิฟต์ เวลาเรายืนข้าง ๆ ไม่ทำให้คนเข้าตอนหลังเสียโอกาส เพราะปกติ การเข้าลิฟต์จะเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งเสมอ ถึงแม้ว่าจะเข้าได้ทีละสามคนก็ตาม เมื่อเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งแล้วถึงแม้จะมีคนยืนอยู่ข้าง ๆ ก็สามารถเดินเข้าไปข้างในได้ีอีกแต่งงเหมือนกันว่าเมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก ครูและนักเรียนขึ้นตึกสี่-ห้าชั้นสบาย ๆ แต่พอระดับอุดมศึกษาแล้วแค่ระดับความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ไม่มีใครเดิน

  3. เรื่องลิฟต์หรือทุกอย่างนี่ จะเดินจะยืนยังไงก็ได้ครับ ไม่ได้เป็นหลักตายตัวขอแค่คิดในหัวหน่อยว่า มีคนอื่นร่วมใช้กับเราน่ะน้ำใจเล็กๆ น้อย แค่นี้ก็ทำให้เมืองมันน่าอยู่ขึ้นเยอะหรืออย่างเข้าร้านซื้อของ พูดคำว่า สวัสดี หน่อยซื้อเสร็จ ขอบคุณเดินออก บอก สวัสดี โชคดี บ๊ายบาย ฯลฯสวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ คำพื้นฐานง่ายๆหรือเดินผ่านกัน ก็ยิ้มให้กันหน่อยเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ Samaritans ให้ข้อมูลว่า ลดโอกาสการฆ่าตัวตายได้นะครับ(บางคนฆ่าตัวตายเพราะว่าไม่มีคนพูดด้วย – คิดว่าอยู่หรือตาย คนอื่นๆ ก็ไม่ได้สังเกตุอยู่แล้ว)

  4. สาว 7-11 กับวัฒนธรรมยุโรป แล้วงั้นจริง ๆ ติดนิสัยคนอังกฤษมาก็ดีน่ะ ประเภทลงรถเมล์แล้วขอบคุณคนขับ(เหมือนเด็กนักเรียนไทยอายุต่ำกว่าเกณฑ์ี่ที่ต้องเสียเงิน) แต่ก็ขอนิดหนึ่งว่าจะด่าจะว่าคนขับรถเมล์ และพนักงานเก็บเงิน (รถร้อน) ก็ต้องเห็นใจเค้าบ้าง อารมณ์แต่ละวันก็ต่างกันพออยู่แล้ว รถก็ติด อากาศก็ร้อน จะให้มายืนยิ้มอยู่ได้ไง บางทีคนขึ้นแม่งก็เลวสุด ๆ แต่แหมคนดี ๆ ทำไมจะไม่มีใครพูดด้วย

  5. เออ แฮะ อืมเห็นสาวถือโค้กเดินผ่านมา"หวัดดีจ๊ะน้องสาว รับขนมจีบเพิ่มมั๊ยจ้ะ?"ใช้ได้ๆ

  6. เห้นด้วยกับความเห้นที่ว่าเวลาขึ้นบันไดเลื่อนให้ยินชิด

Leave a Reply to idCancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.