มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดัดจริตอีกแล้วครับท่าน
ผมอยากรู้นัก ว่าทางมหาลัย เขามีสิทธิอะไรที่จะไปตักเตือนคุณเอมี่ กรณีแต่งตัว “ไม่เหมาะสม”
จะบอกว่า “ขัดกับวัฒนธรรม” … ก็แล้วทำไมไม่ปล่อยให้ สังคม ซึ่งเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมเป็นผู้จัดการไปเสีย
ชาวบ้านร้านตลาด เขาจะด่าทอ จะชื่นชม จะซุบซิบนินทา ฯลฯ ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะทำกัน
การโต้ตอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเหล่านี้ การแสดงความชอบใจไม่ชอบใจ อย่างเสรี เหล่านี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้วัฒนธรรมมันพัฒนาไปตามกาล
ผมไม่มีปัญหาอะไรเลย กับการแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติซะ
ที่มีปัญหาก็คือ ถ้ามีใครซักคนซักกลุ่ม ไม่ว่าคุณคนนั้นเขาจะเป็นใคร จะกระทรวงวัฒนธรรม คณะรัฐประหาร คณะกรรมการวันเด็ก อธิการบดี ฯลฯ ออกมาฟันธงชี้ขาด บอกว่าอย่างนี้ดี อย่างนี้ไม่ได้ … แบบนี้มันเป็นการพัฒนาของวัฒนธรรมแบบไหนกัน ? ผมมองไม่เห็น
หรือจะเป็น “วัฒนธรรมเผด็จการ-อำนาจนิยม-ดัดจริต” ?
ถ้าคุณสุรพล จะโทรไปหาหรือแวะไปหาคุณเอมี่ แล้วตักเตือนกันในฐานะผู้ใหญ่เตือนเด็ก เออ มันไม่เหมาะนะ ระวังตัวหน่อย
… ไม่มีปัญหา น่ารักดีด้วย เป็นห่วงเป็นใยกัน
แต่ถ้าอธิการบดีมธ. จะเรียกให้นศ.เอมี่เข้าพบ แล้วตักเตือนกันอย่างเป็นทางการ ในฐานะอธิการบดีตักเตือนนศ. ไม่ว่าจะลงโทษหรือไม่ลงโทษ จะหนักหรือจะเบา … บ้าแล้ว คุณมีสิทธิอะไร ?
เข้าใจว่ามหาลัยมีระเบียบการแต่งกาย แต่คุณเอมี่เขาแต่งชุดนั้นที่ไหน ? ในมหาลัยหรือ ? ก็ไม่ใช่
แล้วคุณเอมี่เขาไปงานรับรางวัลนั้นในฐานะตัวแทนมหาลัยหรือ ? ก็ไม่ใช่อีก
ถ้าจะตักเตือนกันในนามมหาลัย เพราะเห็นว่ากรณีนี้อาจจะทำมหาลัยเสียชื่อเสียง
ถามว่าถ้าเกิดวันหนึ่งคุณเอมี่เขาไปเล่นหนัง (ไปเล่นในนามส่วนตัวนี่แหละ ไม่ได้ไปเล่นในนามมหาลัย) แล้วโดนโกงค่าตัว หรือโดนลวนลาม หรือโดนเอารัดเอาเปรียบอะไรซักอย่าง หรือถูกทำให้เสียชื่อเสียง ฯลฯ … มหาลัยจะออกมาปกป้องเรียกร้องให้เขาไหม ?
หรือว่าธุระไม่ใช่ ?
คุณ Elderly แนะนำเอาไว้ในเว็บประชาไท น่าสนใจ:
ทำผิดกฎหมาย ก็ลงโทษด้วยกฎหมาย
ทำผิดระเบียบมหาลัย ก็ลงโทษด้วยระเบียบมหาลัย
ทำผิดจารีตประเพณี ก็ลงโทษกันทางสังคม
ถ้าได้แบบนี้ เรื่องมันก็คงจบได้สวย ๆ ไม่ออกมาบ้าจี้แบบนี้
เพราะตอนนี้มหาลัยกำลังบอกว่า คุณเอมี่ทำผิดวัฒนธรรมประเพณีั แต่กลับใช้อำนาจใช้ระเบียบมหาลัยมาจัดการ
คนเขาก็เลยงงกัน
เหวอ…
ศิษย์เก่าคนหนึ่งเซ็ง
รวมความเห็น
- นพพร ชูเกียรติศิริชัย : เสรีภาพของชุดวาบหวิว
- นายหอกหัก : หอกข้างแคร่ : มหาวิทยาลัยของ ‘เอมี่’
- มุทิตา เชื้อชั่ง : ‘เอมี่’ กับวัฒนธรรมอันดีงาม (ประชดทุกบรรทัด !!!)
- จิตร์ทัศน์ : ชายเปลือย
- filmsick : อย่าบอกว่าเธอบาป
- หก สูญ ก้าว : นี่หรือธรรม
- anpanpon : เสรีภาพของชุดวาบหวิว (ลิงก์ไปบทความคุณนพพร)
- ยังดี โดมพระจันทร์ : การเมืองเรื่องกระโปรง: ใครขายข่าว…ใครขายตัว?
- มุกหอม วงษ์เทศ : หีนวิทยาลัย (via filmsick)
- poakpong : ความเหมาะสมในการตรวจสอบการแต่งกาย ? (รวมลิงก์เรื่องนี้)
technorati tags:
Thammasat University,
rights,
freedom,
culture
18 responses to “The Untouchable Thammasat”
คนไทย(แม้แต่ในธรรมศาสตร์)ยังมีความเข้าใจเรื่อง เสรีภาพ สิทธิ และ หน้าที่ ยังไม่ชัดเจนมั้ง หรือเพราะเราไม่เคย"เรียกร้อง"เสรีภาพจากในจิตใจ เหมือนอเมริกัน หรือว่า ฝรั่งเศสในอีกแง่หนึ่ง เสรีภาพ จำเป็นแค่ไหน ? (อันบนนั้นเขียนผิด เลยลบทิ้ง)
เค้าว่าเค้าใช้กฎเรื่องความประพฤติของนักศึกษา เหมือนกรณีเด็กตีกัน แม้จะอยู่นอกสถาบัน ไม่ได้แต่งชุดสถาบัน ประมาณนั้น
เพื่อนผมยังพูดว่า ที่เสี่ยงเจียงประกาศตัดบทนักแสดงเหล่านี้ กับที่ธรรมศาสตร์แค่ตักเตือน มันดูสลับ ๆ กัน!เพื่อนผมอีกคน บ่นว่าเสี่ยงเจียงเอาไงวะ อย่างงี้นักแสดงก็ทำตัวไม่ถูกสิผมว่าไม่เห็นโป๊เลย ถ่ายชุดว่ายน้ำเห็นเยอะกว่านี้อีกแต่ทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญที่สุดที่กล่าวมาเลยผมว่าความเข้าใจ กับการกระทำ และเส้นขีด คนเราอาจจะไม่เท่ากัน สุดท้ายอยู่ที่ความกล้าที่จะทำในสิ่งที่เชื่อ หรือกล้าที่จะบอกว่าเชื่อในสิ่งที่ทำหรือเปล่าถ้ายอมรับกันได้ว่า อืม วัฒนธรรมดีงาม (ที่มาจากไหนไม่รู้—ใครบอกว่าดีงามนะ?) เป็นหน้าที่ที่มหาวิทยาลัยต้องรักษา ทำอย่างที่ว่าผมก็ว่าถูก _ของเค้า_หรือไม่ก็ยอมรับว่า เรียกไปว่า "พอเป็นพิธี" ให้ตัวเองไม่โดนด่า ก็ต้องยอมรับว่า… อะไรดีล่ะ?
dean4j:เด็กตีกันนั่นมัน ผิดกฎหมาย แล้วครับตามวินัยนศ. มันก็มีเรื่องไม่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอยู่แล้วคุณเอมี่ เขาทำผิดกฎหมายหรือ ?lulu:ผมก็ไม่รู้ว่าเสรีภาพจำเป็นแค่ไหนแต่ผมเชื่อว่า มันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาวัฒนธรรมjitta:พูดโดยสรุปก็คือ มหาลัยออกมาปกป้องตัวเองเท่านั้น
สงสารคุณเอมี่จังครับ คงไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยบ้านไมได้เหมือนแต่ก่อนทศ
อันนี้ โป๊ กว่าชุดว่ายน้ำ, เพราะ(เขาลือกัน)ว่ามันเห็นสาหร่าย.ระเบียบ ของ มก. รู้สึก ว่าไม่ให้มีสัมพันธ์ชู้สาว ไม่ว่าในหรือนอกมหาลัย.“เพราะตอนนี้มหาลัยกำลังบอกว่า คุณเอมี่ทำผิดวัฒนธรรมประเพณี แต่กลับใช้อำนาจใช้ระเบียบมหาลัยมาจัดการ คนเขาก็เลยงงกัน''เขาอาจจะหมายถึง ผิด วัฒนธรรมประเพณี และ ระเบียบ มหาลัย ด้วยมั้ง.และ ระเบียบ มหาลัย ข้อนั้น มัน ก็ อิง วัฒนธรรมประเพณี.หยั่งงี้ จะ ยัง งง อีกไหม?ระเบียบ เขา อาจ จะ ครอบคลุม ทั้งในและนอกมหาลัย.ทีนี้ ถ้า ระเบียบ มันจำกัด สิทธิ มากไป, ก็ต้องไปแก้ระเบียบ.
ธรรมศาสตร์ไม่มีสิทธิในการลงโทษ จะตักเตือนก็ได้ไม่มีปัญหาแต่ไม่มีสิทธิในการลงโทษ ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนยังอยู่ เอมี่ฟ้องธรรมศาสตร์ได้เลย อานนท์: ชุดว่ายน้ำก็เห็นสาหร่ายได้ ถ้าเก็บไม่ชัด ชุดว่ายน้ำสำหรับประกวดนางสาวไทยสมัยก่อน เว้าสูงประมาณนี้ก็หลายปี ไม่ต้องนับการประกวดนางงามจักรวาลถ้าระเบียบมหาวิทยาลัยครอบคลุมทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยแล้วหล่ะก็ บ้าไปแล้ว ถ้าระเบียบเกษตรบอกว่าห้ามมีสัมพันธ์ชู้สาวทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ก็คงต้องไปแก้ระเบียบจริง ๆ เพราะนักศึกษาอายุเกิน 18 แล้วทั้งนั้น ไม่มีสิทธิเสรีภาพที่ถูกกฎหมายในเรื่องเพศสัมพันธ์ ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง มันก็เกินไปนะประเทศเรากำลังทำเป็นแฟชั่นว่า ระเบียบมหาวิทยาลัยอยู่เหนือกฎหมาย การงดรับพระราชทานปริญญาคือบทลงโทษสูงสุด หรือเปล่า
รู้สึกผิดหวังมาก ๆ กับพี่เอก หรือ อาจารย์ปริญญา อดีตนายกฯ สนทย. สองสมัยซ้อน และเป็นแกนนำนักศึกษา สมัย รสช. หรือเสรีภาพเป็นเพียงเรื่องของอายุ และหัวโขน
http://www.registrar.ku.ac.th/download/ประกาศข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญา.htm < -- จริงๆ ด้วยอะ. 30.2 นิสิตทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักศีลธรรมและวัฒนธรรมของสังคมไทยในทุกโอกาส 30.3 นิสิตทุกคนมีหน้าที่รักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย โดยละเว้นการประพฤติใด ๆ ที่นำมา หรืออาจนำมาซึ่งความเสียหายแก่ตนเองและมหาวิทยาลัย 30.9 นิสิตไม่จัดสิ่งพิมพ์ สิ่งวาด หรือสิ่งเขียนอันอาจกระทบกระเทือนถึง ผู้อื่นออกโฆษณาเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัย 30.10 นิสิตไม่นำขนบธรรมเนียม หรือวิธีการอันไม่เหมาะสมมาปฏิบัติ ไม่ว่าในหรือนอกบริเวณมหาวิทยาลัย 30.11 นิสิตไม่จัดการประชุม ขอชุมนุมกิจกรรม โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากมหาวิทยาลัย 30.5 นิสิตต้องไม่เสพสุรา หรือสิ่งเสพติดอื่นใดในบริเวณมหาวิทยาลัย นิสิตจะไม่เสพสุราจนครองสติไม่อยู่ หรือเสพสิ่งเสพติดใด ๆ จนเป็นสาเหตุให้เสื่อมเสียแก่ตนเอง บิดา มารดา ผู้ปกครอง และเกียรติคุณของมหาวิทยาลัย
(ห้ามเสพเฉพาะในมหาลัย, และห้ามเสพจนครองสติไม่อยู่ทั้งในและนอกมหาลัย)
ส่วนเรื่อง ห้ามชู้สาว เหมือน ผมเคยอ่านเจอ ใน ระเบียบ ของ คณะวิศวะ.
แต่ ธรรมศาสตร์ เคยแก้ระเบียบ เรื่องชุดแต่งกาย แล้ว ปะ?ให้ สามารถแต่ง ไปรเวท ไปเรียน ได้.
อ.ปริญญา เป็นพวกประนีประนอม หรือ สัมฤทธิผลนิยม ปะ?การที่เขาเป็นแกนนำนักศึกษา ก็เพราะเป็น สัมฤทธิผลนิยม ปะ?
อานนท์: ถ้าเป็นระเบียบมหาวิทยาลัย นั่นหมายความว่าควบคุมทั้งระดับ ตรี โท เอก เพราะไม่มีข้อยกเว้น และถ้ายกเว้นก็ตลก นี่ไม่นับรวมนักเรียนต่างชาติอีกนะ ตลกไหม แก่จะตายอยู่แล้ว ยังต้องมีคนมาคุม ระเบียบเดียวแต่เลือกและแยกปฏิบัิติตามความเหมาะสมขอสังคม
“ประกาศสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เรื่อง ข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พุทธศักราช 2548''อันนี้ของเฉพาะปริญญาตรี.
“ผมก็ไม่รู้ว่าเสรีภาพจำเป็นแค่ไหนแต่ผมเชื่อว่า มันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาวัฒนธรรม''ส่วนตัวผมก็ว่าก็น่าเชื่อว่าเสรีภาพเป็นสิ่งจำเป็น.แต่กลับมาคิดอีกที, เอ, ทำไมผมเชื่อจังวะ.ผมเชื่อตามกระบวนทางวิทยาศาสตร์รึเปล่า.ผมเคยเห็นผลงานวิจัยที่ยืนยันว่า เสรีภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง รึเปล่า.ผมคงต้องย้อนกลับมาค้นหางานวิจัยต่างๆ เหล่านั้นซะก่อนสิเนี่ย, งานวิจัยที่ยืนยันว่าเสรีภาพมันจำเป็นสำหรับฯลฯ จริงหรือไม่.มันมีงานวิจัยที่มีการพิสูจน์แบบ formal เพื่อยืนยันสิ่งเหล่านี้หรือไม่?แต่บางทีสิ่งเหล่านี้มันเป็นที่ประจักษ์โดยไม่ต้องพิสูจน์รึเปล่า?อืม, มันจะมี formal proof เพื่อแสดงว่า "การขโมยของเป็นสิ่งไม่ดี", มันจะมีรึเปล่านะ.มันอาจจะมีงานวิจัยเหล่านั้นมายืนยันอยู่แล้วก็ได้, เพียงแต่ผมไม่ใส่ใจศึกษาเอง.แต่ประเด็นมันไม่ใช่ว่ามันมีงานวิจัยมายืนยันจริงหรือไม่.ประเด็นคือ, ผมดันเชื่อไปซะก่อนที่จะหาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มายืนยันซะนี่ – -"เอ๋, แล้วต้องมี formal proof รึเปล่าว่า "formal proof เป็นสิ่งจำเป็น"?(อานนท์ เอง)
เอ่อ, ผมเสพจนครองสติไม่อยู่ทั้งในและนอกมหาลัยไปหลายหนแล้ว, คงโดนตัดคะแนนจนโดนไล่ออกไปแล้ว – -'อีกอย่างงาน freshy night ของคณะ, แม่งล่อเหล้ากันในคณะอย่างเปิดเผย – -'นี่ถ้าผมไปเล่นการเมืองหรือไปเป็น ปปช. คงมีคนขุดคุ้ยเรื่องนี้มาเล่น, แล้วก็บอกว่าผมพ้นสภาพนิสิตไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว.แล้วก็จะยึดปริญญาผมคืน – -"
ระเบียบมหาวิทยาลัย30.2 นิสิตทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักศีลธรรมและวัฒนธรรมของสังคมไทยในทุกโอกาสมาตรา ๒๘บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้ สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้ต่างกันที่ มี กับไม่มี คำว่าวัฒนธรรมดูข้อนี้มาตรา ๓๘บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนบัญญัติหรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในการใช้เสรีภาพดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระทำการใด ๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้เพราะเหตุที่ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนา หรือปฏิบัติตามศาสนบัญญัติหรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่นคือถ้าระเบียบระหว่าง ป. ตรี โท เอก แตกต่างกัน ก็หมายความว่ามีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้น เด็ก โท เอก จะเรียกร้องสิทธิอะไรที่แตกต่างจากเด็กป.ตรี ในเมื่ออายุเกิน 18 ด้วยกันทั้งสิ้น
any comment from blog owner?
วันนี้เห็นอ.ปริญญาที่สยาม :P—-ความเห็นเหรอผมว่า "การปฏิบัติตามวัฒนธรรม" มันไม่ใช่หน้าที่น่ะ จะกำหนดให้ทำมัน บังคับ หรือคาดหวังอะไรกันก็ดูแปลก ๆ, สำหรับผมนะลองคิดดูว่า ถ้าทุกคนเกิดยึดถึือตามนี้ขึ้นมา"ปฏิบัติตามวัฒนธรรม" เป๊ะ ๆ เลย… แบบนี้จะมีวัฒนธรรมใหม่หรือวัฒนธรรมย่อยเกิดขึ้นได้ไหม ?หรือวัฒนธรรมจะปรับเข้ากับสภาพเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนไปได้ไหม ?ผมไม่คิดว่าเราต้องรับใช้วัฒนธรรมอย่างเคร่งครัดขนาดนั้นคนแต่ละคนก็คิดก็ทำโต้ตอบกันไปตามอิสระแล้วภาพรวมทั้งหมดนั่นไม่ใช่หรือ ที่กลายเป็นวัฒนธรรมคือมันน่าจะมาจากข้างล่าง ไม่ใช่จากข้างบนถ้ามาจากข้างบน นั่นมันคงเป็นพวก "รัฐนิยม"แบบสมัยจอมพลป.โน่นคนไทยต้องเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ ร้องเพลงสรรเสริญ คนไทยไม่กินหมาก คนไทยตื่นเช้ามาต้องทำอะไร ต้องจูบเมียก่อนไปทำงาน ต้องนั่นต้องนี่ คนไทยใส่หมวก ฯลฯหรือเดี๋ยวนี้อาจจะเป็น คนไทยใส่เสื้อเหลือง คนไทยภูมิใจสุวรรณภูมิ คนไทยพอเพียง… ของพวกนี้ ถ้ามันไม่มีแก่นสาระอะไรที่มันเข้ากับคนไทยได้จริง ๆ พอคนประกาศใช้หมดอำนาจไป มันก็หายไปก็มันไม่ใช่วัฒนธรรม