Dissecting Thai Media


สาระสนเท่ห์​ ​คือโชว์รูม​ ​ห้องทดลอง​ ​และ​ factory outlet ​สำ​หรับ​ความ​คิดของ​ สรรพวร​ ​วามวาณิชย์​ ​ระหว่างที่​เขา​เขียน​ หนังสือเกี่ยว​กับ​สื่อมวลชนไทย​ ​ยัง​ไม่​เสร็จ 🙁

มีตัวอย่างให้อ่านแล้ว 3 บท — อ่านไปแล้ว 1 บท “ ประวัติศาสตร์​จะ​ไม่​ซ้ำ​ ” น่าสนใจ


6 responses to “Dissecting Thai Media”

  1. อ่านที่เขาเขียนอันอื่น ๆ แล้ว น่าสนใจดี ข้อโต้เถียงหลายข้อของเขามองเป็นปัจเจกชนมาก เน้นความเป็นเสรีนิยมมากเหลือเกิน (เช่น "ทีนี้​ใคร​ช่วย​ผมบอกผมอีกทีซิว่า​ ​ทำ​ไมคนไทยเรา​ถึง​ไม่​มีสิทธิซื้อของ​และ​ขายของ​ (รวม​ทั้ง​แรงงาน) ​ให้​กับ​ใคร​ใดๆ​ ​ก็​ได้​ที่​เรา​ต้อง​การ​, ​รวม​ทั้ง​ผู้​ผลิต​และ​นักลงทุนต่างประ​เทศ​? ​เพราะ​ว่า​เดี๋ยวเรา​จะ​กลาย​เป็น​วัวควายเหรอ​?" จาก http://sanpaworn.vissaventure.com/?id=248 )จริง ๆ ก็มีมูลอยู่ คนที่อาจจะถูกขูดรีดจากบริษัทภายนอกประเทศ ในปัจจุบันก็ต้องถูกขูดรีดจากบริษัทในประเทศอยู่ดีการต่อต้าน FTA นัยหนึ่งก็คือการปกป้องบริษัทใหญ่ ๆ ในประเทศ (ผู้ผลิต-ประกอบการ) และการเปิดเสรีทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์เสมอแต่พลเมืองในประเทศที่เป็นผู้ผลิตรายย่อยมากล่ะ? (เช่น ชาวสวน) จะให้เขาแข่งกับบริษัทเกษตรข้ามชาติได้อย่างไร?(หรือไม่ต้องแข่ง รอให้ CP มาฮุบไปก่อนดีกว่า…)เฮ่อ มองทางไหนก็เหมือนจะตันไปหมด

  2. อ่านมานานแล้วเหมือนกันครับ เข้าไปคอมเม้นต์ด้วยในพากย์ภาษาไทย ผมว่าเขามีวิธีคิดแบบชนชั้นกลางรุ่นเก่านะครับเช่น เกลียดม๊อบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ความเห็นต่างคือความเห็นผิด ฯลฯแต่สังคมเราก็อย่างนี้ละครับ จะให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้อย่างไร…

  3. Website ของเขามีเป็นภาคภาษาไทยด้วยต้องดูด้านบนซ้ามือซึ่งมีให้เปลี่ยนจากภาษาอังกฤษเป็นไทย ครั้งแรกเข้าไปอ่านข้อความก็เริ่มสังเกตสิ่งที่ปกติคือ เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีปัญญาสูงกว่าคนระดับ genius ทั้งหลายในโลกนี้ และมีอคติกับคนที่เขาถือว่าต้องโง่กว่าเขา (หรือ anti-ทักษิน)เพราะเขาเรียนจบมาจาก Wesleyan University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ แต่ไม่ติดอันดับอย่าง Harvard University, Yale University, Princeton University, Oxford University, Cambridge University ฯลฯ จริงแล้วเขารู้ภาษาอังกฤษและเก่งในการเขียน เขานึกว่าเขาฉลาดมาก ซึ่งทำให้เขาโง่มากกว่า ลองไปอ่านบทความอื่นๆ แล้วคุณจะเข้าใจเอง

  4. Bact:but it seems like my comment is not meet his "filtering criteria" 😛ขอโทษที ผมไม่ moderate ความคิดเห็น. โพสต์เมื่อไหร่ก็อ่านได้เมื่อนั้น. และตั้งแต่ผมมีบล็อกมาก็เพิ่งเคยลบความเห็นครั้งเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่ความคิดเห็นของคุณ. ข้อกล่าวหาชุ่ยๆ แบบนี้ทำคนบริสุทธิ์เดือดร้อนมามากแล้ว.Golfee:ผมว่าเขามีวิธีคิดแบบชนชั้นกลางรุ่นเก่านะครับเช่น เกลียดม๊อบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ความเห็นต่างคือความเห็นผิด ฯลฯแล้วคุณไม่ได้เห็นว่า ความเห็นที่แตกต่างของผมเป็น ความเห็นที่ผิดเหรอ? ถ้าจะไม่ให้พูดว่า สิ่งที่คุณเห็นว่าผิดคือสิ่งที่ผิด พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ แล้วจะให้ถกกันได้ยังไงไม่ทราบ? หรือจะให้ชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามแล้วบอกว่า "คุณเห็นว่าความเห็นต่างคือความเห็นผิด" แบบที่คุณทำ? ป.ล. ภาค ภาษาไทย, ไม่ใช่ พากย์ ภาษาไทย. เชิญว่าผมอีกสิว่า : "เขาคิดว่าคนที่สะกดแตกต่างคือสะกดผิด แต่สังคมเราก็อย่างนี้ละครับ จะให้ทุกคนสะกดเหมือนกันได้อย่างไร…" Deliverance:สิ่งที่ปกติคือ เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีปัญญาสูงกว่าคนระดับ genius ทั้งหลายในโลกนี้เป็นต้นว่าใครบ้าง? ผมขอประกาศไว้ให้ชัด ณ ที่นี้ว่าผม ไม่มีปัญญาสูงกว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี, ไอแซค นิวตัน, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, ริชาร์ด ไฟน์แมน, เจมส์ วัตสัน, เอดวาร์ด วิตเตน ฯลฯ. ผมก็ไม่เคยคิดจะไปวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาด้วย หรือถึงคิดก็ไม่มีปัญญา.แต่คนที่มีปัญญาจะวิพากษ์วิจารณ์นั้นมี แล้วก็ได้ทำแล้วด้วย. โลกเราก้าวหน้าได้ก็ด้วย คนรุ่นใหม่ที่แก้ไข ความผิดพลาดของคนรุ่นเก่า ไม่ว่าจะปราดเปรื่องแค่ไหนก็ตาม.ผมยอมรับว่าผมไม่คิดว่าคุณประเวศ วะสี เป็นคนที่ปราดเปรื่อง (“ระดับ genius ทั้งหลายในโลกนี้” ยิ่งไม่ต้องพูดถึง) อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องเศรษฐศาสตร์และการใช้ภาษา และผมก็ได้ให้เหตุผลของผมด้วย. ถ้าคุณมีเหตุผลตอบโต้ก็เชิญเขียนได้ แทนที่จะตอบด้วย Ad hominem ซึ่งเป็นเครื่องมือของคน… เอิ่ม… ไม่ฉลาด.และมีอคติกับคนที่เขาถือว่าต้องโง่กว่าเขา (หรือ anti-ทักษิน)“อคติ” แปลว่าลำเอียง. เมื่อผมเห็นสิ่งที่ (ผมคิดว่า) ผิด, ผมก็บอกว่าผิด แล้วก็ให้เหตุผล. ลำเอียงตรงไหนไม่ทราบ? ป.ล. ทักษิณ ณ เณร ไม่ใช่ น หนู. บอกอีกสิว่าผมอคติกับคนที่ผมถือว่าสะกดไม่เป็น.เขานึกว่าเขาฉลาดมาก ซึ่งทำให้เขาโง่มากกว่า ลองไปอ่านบทความอื่นๆ แล้วคุณจะเข้าใจเองบางทีผมอาจจะเสียเวลาเปล่า ที่อุตสาห์เขียนตอบมาทั้งหมดนี้. ที่จริงแค่เขียนว่า “คนออกความเห็นบนเว็บไซต์นี้ทุกคนนึกว่าตัวเองฉลาด ซึ่งทำให้พวกเขาโง่มากกว่า ลองอ่านดูสิ แล้วคุณจะเข้าใจเอง” ก็สิ้นเรื่องแล้ว จริงมั๊ย?(ขอยกเว้นให้คนหนึ่ง. ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับคุณ Jittat ข้างบน (และไม่มีเวลาจะตอบโต้) แต่อย่างน้อยที่สุดเขายังพยายามถกเถียงด้วยเหตุผล. โลกนี้ยังไม่สิ้นคนดี)

  5. Tom: ผมได้พยายามโพสต์ตอบไปมากกว่าสองรอบที่เว็บคุณจริง ๆ นะครับ แต่มันไม่แสดงขึ้นมาบนเว็บ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเพราะปัญหาทางเทคนิค หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ผมไม่ทราบ ซึ่งที่ผมได้บอกไปว่า his "filtering criteria" นั้นนี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปเฉพาะเจาะจงว่าตัวคุณทอมได้คัดความเห็นออกก่อนมันจะถูกแสดง หรือว่าลบมันทิ้งไปคืออาจจะเป็นเพราะตัวโปรแกรม/เซิร์ฟเวอร์ blog ของคุณทอมก็เป็นได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นที่เบราว์เซอร์ของผม ซึ่งผมเองก็เคยโพสต์แล้วไม่ติดทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง (ในบล็อกผมเองนี่ก็เคย หรือ pantip.com นี่ก็ประจำ เหมือนมันแย่งกันรีเฟรช)ที่ผมตั้งใจจะสื่อคือ เออ มันหายไประหว่างทางแฮะ(ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ มาจากการเล่นเน็ต ทำให้ผมสงสัยตรงตัวโปรแกรม/เซิร์ฟเวอร์อย่างที่ว่าไว้ มากกว่าสาเหตุอื่น ๆ) โอเค ผมย้อนกลับมาอ่านความเห็นของผมอีกที โดยอ่านประกอบกับโทนของความเห็นข้างเคียงก็จริงอย่างที่คุณว่า มันทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าตัวคุณทอมเองกรองความเห็น (เช่น ความเห็นที่คิดต่างกับคุณทอม) ได้จริง ๆ (ไม่ใช่ตัวโปรแกรม)ซึ่งตรงนี้ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับอาจจะต้องใช้คำว่า disappear (ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีใครเป็นคนทำ) จะดูเป็นกลางมากกว่า filtering (ซึ่งมันสื่อมากกว่าว่ามีใครซักคน หรืออาจจะเป็นเครื่อง ที่ทำ) หรือไม่ก็คำอื่นอย่างไรก็ตาม ขอบคุณที่ตักเตือนครับ จะระวังมากกว่านี้

Leave a Reply to bact'Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.