เมื่อก่อนสามีเคยเป็นตัวแทนเก็บค่าไฟฟ้าให้การไฟฟ้าแก่งคอย จ.สระบุรี ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2546 โดยเอาโฉนดที่ดินไปวางค้ำประกันไว้ ทำมาได้เกือบ 2 ปี ต่อมาทางการไฟฟ้าแก่งคอยแจ้งว่าส่งค่าไฟให้ไม่ครบ ขาดไปประมาณ 3 แสนบาท จึงตัดสิทธิ์ไม่ให้เก็บค่าไฟต่อและยังยึดที่ดินซึ่งค้ำประกันไว้ สามีจึงตรวจสอบหาข้อเท็จจริงปรากฏว่าคนใกล้ชิดที่ร่วมทำงานด้วยกัน และเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าบางคน สมรู้ร่วมคิดกันยักยอกเงินค่าไฟที่เก็บได้เอาไปใช้เอง นายปรีชาจึงแจ้งให้การไฟฟ้าแก่งคอยทราบ ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนถูกย้ายและถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่เสร็จสิ้น ในช่วงนี้สามีจึงหลบมาเก็บตัวที่กรุงเทพฯมาได้ 6 เดือนแล้ว เพราะเกรงจะได้รับอันตราย มายึดอาชีพเป็นคนขับรถตู้วิ่งระหว่าง อนุสาวรีย์ชัยฯ-ลาดกระบัง ส่วนตนขายผลไม้อยู่ที่ตลาดลาดกระบัง ที่ผ่านมาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ และไม่ยอมติดต่อใครเลย แต่สามียังถูกตามฆ่าจนได้ คิดว่าเป็นเรื่องนี้แน่นอน เพราะตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯไม่เคยมีเรื่องกับใคร
One response to “แล้วใครจะกล้า”
เฮ่อ