เราคนไทยมีแนวโน้มที่จะใช้อำนาจควบคุมกันและกันอยู่เสมอ
ด้วยการ ‘สั่ง’ อาทิ
สั่งไม่ให้ดื่มเหล้าก่อนอายุ 25 ปี
สั่งไม่ให้เด็กผู้หญิงมีเซ็กส์ก่อนวัยอันควร (ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่า ‘ควร’ คือเมื่อไหร่)
และสั่งอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เด็ก’ อยู่ในรีตในรอย
ซึ่งก็คืออยู่ในการควบคุมของเราอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เด็ก’ โง่และขาดไร้ซึ่งวุฒิภาวะถึงขนาดนั้นเลยเชียวหรือ ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คำถามที่ต้องย้อนถามกันหนัก ๆ ก็คือ
แล้วพวกเขาเป็นผลผลิตของใคร…ของสังคมแบบไหน,ของเมืองแบบไหน ?
ในเมืองที่ไม่มีพิพิธภัณฑ์ชั้นดี
ไม่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ไม่มีรั้วกั้น
ไม่มีหอศิลป์ที่ดี
ไม่มีกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ
ไม่มีทางเลือกอื่นใดให้เด็ก ๆ
นอกจากการไปเดินห้างและเที่ยวกลางคืน
คุณคิดว่าเด็ก ๆ ในเมืองนั้นจะใช้ชีวิตแบบไหน…
ในเมื่อเมืองไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาเลย
พวกเขาก็ต้องนัดกันไปบริโภค ดื่ม แดก ดริงค์
แล้วก็จบลงบนเตียงด้วยเซ็กส์ที่น่าเบื่อกับคู่ที่น่าเบื่อ
(เพราะขาดไร้ซึ่งวุฒิภาวะ และปัญญาพอ ๆ กันไปหมดทั้งเมือง)
จนต้องตระเวนหาคู่ใหม่ไปเรื่อย ๆ ทุกคืน ๆแล้วเราก็ ‘บังอาจ’ ไปห้ามพวกเขาดื่มแอลกอฮอล์
ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์ อะไรจะบดบังสติ ทำให้พวกเขามึนเมา และมองเห็นความงามในตัวคู่ที่กำลังคั่วอยู่ได้เล่า
…
จาก เรื่องของเด็ก ปมของผู้ใหญ่ โดย โตมร ศุขปรีชา นิตยสาร way ฉบับที่ 2, พฤศจิกายน 2549, ปก “พลังของเครื่องแบบ”
อ่านเรื่องนี้ แล้วผมนึกถึงอย่างน้อยสองอย่าง
คือ
หนึ่ง ความขาดแคลนพื้นที่พักผ่อนเรียนรู้ทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรมของคนเมือง ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว มันยังพอมีอยู่บ้าง ตามซอกตามหลืบ ตามกำลังของผู้ที่มีใจรักจะผลักดัน เพียงแต่เราอาจจะไม่ค่อยได้ข่าวคราวอะไรนัก เพราะพวกเขาไม่มีกำลังประชาสัมพันธ์ (ถ้าใครสนใจงานแสดงศิลปะ ให้สมัครปฏิทินศิลปะ ThaiArtCal ไว้เลย ดูตัวอย่างด้านขวา มี feed และ iCal ด้วย)
กับ
สอง วัฒนธรรมไข่ในหิน คุณพ่อรู้ดี ห้ามโน่นห้ามนี่ ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ไม่ควร ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้นะ ตลอดเวลา (ดู บทสัมภาษณ์ ดร.เกษม เพ็ญภินันท์ ในนั้นมีพูดถึงการสอนเรื่องศีลของคนไทย)
ก็ไม่รู้ว่า เปลี่ยนคณะปกครอง จาก คุณพ่อรู้ดีฉบับพลเรือน มาเป็น คุณพ่อรู้ดีฉบับทหาร/ข้าราชการ และจะช่วยให้ ประชาชน/พลเมือง/ไพร่ฟ้า/ข้าแผ่นดิน อย่างเรา ๆ มีพื้นที่พักผ่อนเรียนรู้ทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม เพิ่มขึ้นซักเท่าไร นี่ยังไม่ต้องพูดถึงพื้นที่แสดงความคิดเห็นอย่างเสรีหรอกนะ
tags:
space |
recreation |
children |
teenager
2 responses to “Bangkok City of Life”
ถ้าไม่สะดวกใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เนต ก็แนะนำให้ดูเอาจาก art connection แทน ..
INDEX-Berlin อันนี้ของเบอร์ลิน