ต่อเนื่องจาก “ไม่ต้องรักชาติ”
ประกาศสำนักรัฐมนตรี วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ว่าด้วย วีระธัมของชาติไทย เป็นการกำหนดนิสัยประจำชาติไทย ๑๔ ข้อ ดังนี้ (คงการสะกดตามเดิม)
- ไทยรักชาติยิ่งชีวิต
- ไทยเปนนักรบชั้นเยี่ยม
- ไทยเปนชาติดีต่อมิตร และร้ายที่สุดต่อสัตรู
- ไทยเปนชาติบูชาพุทธสาสนายิ่งชีวิต
- ไทยเปนชาติปากกับไจตรงกัน
- ไทยเปนชาติรักสงบ
- ไทยเปนชาติซื่อสัจ และกตัญญู
- ไทยเปนชาติขยัน
- ไทยเปนชาติเพาะปลูกอาหารไว้กินเอง
- ไทยเปนชาติสะสมมรดกไว้ไห้แก่ลูกหลาน
- ไทยเปนชาติชอบหยู่ดีกินดี
- ไทยเปนชาติชอบแต่งตัวดี
- ไทยเปนชาติยกย่อง เด็ก หยิง และผู้ชรา
- ไทยเปนชาติว่าตามกันและตามผู้นำ
อันนี้ผมว่า “คลั่งชาติ” นะ หลาย ๆ ข้อพยายามปลูกฝังค่านิยมที่ดี แต่บางข้อก็ อย่างที่เค้าใช้คำว่า “รัฐนิยม” นั่นแหละ
ความเห็นของผมก็คือ ทำเหมือนประชาชนเป็นหน่วยการผลิตอะไรซํกอย่างของรัฐ แล้วก็กำหนดมาว่า คนไทยต้องเป็นอย่างนี้ ๆ นะ (เพื่อให้รัฐบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น ไทยจะเป็นมหาอำนาจ หรือ ไทยจะไปบอลโลก ก็ว่ากันไป)
มากกว่าจะเป็น คนที่มาอาศัยอยู่ร่วมกัน (ขอแค่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่อดอยากก็พอแล้ว จะเรียกอันนี้เป็นเป้าหมายก็ได้)
ตัวอย่างมันเก่าไป และอาจจะล้าสมัย แต่ถ้ามองในเรื่องเจตนา (ไม่ต้องไปดูไอ้ 14 ข้อนั่น) ผมเชื่อว่าคนไทยหลาย ๆ คนก็คงคิดอย่างนี้อยู่ ประมาณว่าฉันรักชาติ ใครคิดไม่เหมือนฉัน ไอ้นั่นขายชาติ ว่าไปนั่น
7 responses to “วีระธัมของชาติไทย”
เค้าห้ามร้องเพลง "หนักแผ่นดิน" มาตั้งนานแล้ว bact' สงสัยเกิดไม่ทัน ที่ชูศรีร้องน่ะ เนื้อร้องตอนหนึ่งประมาณว่าคนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน หนักแผ่นดินพี่จอย
ที่เขียนน่ะหมายความว่าตัวอย่างมันเก่าไปแล้ว การที่คนเราจะไปชี้หน้าด่าใครว่าไม่รักชาติน่ะ มันน่าจะหมดไปตั้งแต่สมัยที่ยังมีการร้องเพลง "หนักแผ่นดิน" อยู่ ส่วนเนื้อร้องน่ะเขียนให้รู้เฉยๆ ว่าตอนเด็กๆ เพลงนี้ฮิตมากน่ะ ไม่ได้มีนัยแฝงใดๆ ทั้งสิ้น เดี๋ยวจะเข้าใจผิดหาว่าผมด่า bact'
ผมว่ามันยังไม่หมดน่ะสิครับดูตามกระทู้พันทิป หรือผู้จัดการออนไลน์ ก็ได้เวลามีใครมาแสดงความคิดเห็นอะไรแตกต่างออกไปก็มักจะถูกหาว่า ไม่รักชาติมั่งล่ะ ขายชาติมั่งล่ะอ่ะ เรื่องปัตตานีก็ได้ ในผู้จัดการออนไลน์ มีคนเสนอว่า น่าจะให้สิทธิเค้าเป็นเขตปกครองพิเศษ ทำนองเดียวกับ กรุงเทพ หรือ พัทยามาละ ไม่รักชาติ ขายชาติ ต่าง ๆ นานา ผมถือว่าความเห็นพวกนี้ไม่สร้างสรรค์ ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรเลยนอกจากนี้ ยังทำให้สาระ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ถูกมองข้ามไปด้วย (เพราะถูกเสนอโดย "ผู้ไม่รักชาติ")
หรือท่าที่ท่านผู้นำ ส.ส.ร่วมรัฐบาล และกองเชียร์ มีต่อ "พวกขาประจำ"ผมว่านั่นก็เป็นลักษณะการแสดงออกอย่างอ่อน ๆ ของ "ฉันรักชาติ เธอไม่รัก" ได้เหมือนกัน
ถ้าเอาเรื่องซีเรียสน้อยกว่านั้นดูเรื่องเขื่อนก็ได้ที่ออกมาเดินขบวนเรียกร้อง ว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกไล่ที่ หรือว่ายังไม่ได้รับเงินชดเชย จัดสรรพื้นที่ทำกินเดินขบวนนี่จะมีเบื้องหลังอะไรรึเปล่าผมก็ไม่ทราบได้ ไม่ขอพูดตรงนี้ เพราะไม่เกี่ยวกะเรื่องที่จะสื่อเรื่องที่จะสื่อคือมีคนบ่นว่า ชาวบ้านพวกนี้ ไม่รักชาติ ไม่เสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ(นี่ไม่นับ โอ๊ย เอาอีกแล้ว รถติด!)คือพอยกคำว่า ไม่รักชาติ ขึ้นมาปุ๊บความชอบธรรมต่าง ๆ ของอีกฝ่ายเหมือนจะหายไปเลยเลยคิดว่ามันเป็นคำที่น่ากลัว(อาจจะคล้าย ๆ คำว่า "คอมมิวนิสต์" ในสมัยหนึ่ง … "ฆ่าคอมมิวนิสต์ได้ ไม่บาป" ผมเห็นภาพคนเอาเก้าอี้ฟาดศพที่ถูกแขวนคอตรงสนามหลวง ก็เศร้านะ)—-งั้นพูดเป็นว่ามารักชาติด้วยการกระทำกันเถอะแต่อย่าไปคิดว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำอย่างเรา เค้าไม่รักเราอาจจะไม่เห็นตอนเค้าทำก็ได้ หรือเค้าอาจจะรักอีกแบบถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ไม่มีพวกเขาพวกเรา ก็เชื่อใจกัน ปัญหาต่าง ๆ ก็น่าจะเบาลงได้
1.คือหนึ่งเราต้องเข้าใจว่าการตอบกระทู้มันอาจจะไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของผู้ตอบ และบางคนก็ใช้คำพูดรุนแรง (ไม่ใช่ความเห็นที่รุนแรง) เพื่อเอาชนะผู้อื่น ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับการเขียนเพื่อขอให้ได้เขียน2."อ่ะ เรื่องปัตตานีก็ได้ในผู้จัดการออนไลน์ มีคนเสนอว่า น่าจะให้สิทธิเค้าเป็นเขตปกครองพิเศษ ทำนองเดียวกับ กรุงเทพ หรือ พัทยา"จริงๆ แล้วด่าเป็นอย่างอื่นก็ได้นอกจากไม่รักชาติ เพราะพวกที่เสนอความเห็นทำนองนี้ เขียนด้วยความไม่เข้าใจ คือต้องเข้าใจว่าไม่มีใครถือสิทธิได้ว่าอยู่ที่นี่มาก่อน และเป็นเจ้าของที่นี่ ในเมื่อไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงแล้วใครจะถือสิทธิในการให้สิทธิ 3. ทุกคนย่อมหากลเม็ดมาทับถมฝ่ายตรงข้ามเสมอ ดังนั้นการเอาชาติมาอ้างคงไม่ได้หมายถึงการยังยึดอยู่กับลัทธิชาตินิยม (ซึ่งมีประโยชน์ในสมัยหนึ่ง-แต่ปัจจุบันต้องไปถามพวกอเมริกันว่ามันยังมีประโยชน์อยู่หรือเปล่าที่ยังเป็นชาตินิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน) 4.เรื่องเขื่อน ก็เช่นเดียวกับข้อ 3 ดังนั้นผู้ที่แวดระวังต้องหาข้อมูลพอสมควร เช่นเรื่องเขื่อนที่มีการจัดการดีที่สุดนั้นก็ยังมีปัญหาในการจ่ายเงินคืนให้กับผู้ที่ต้องสูญเสียที่ทำกิน 5. อย่าไปเชื่อมากนักว่าชาวบ้านตาดำๆ ตามต่างจังหวัดน่ะเป็นผู้ที่น่าสงสาร ใช่มันส่วนหนึ่งที่เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ส่วนใหญ่มันไม่เป็นอย่างนั้น ไม่เชื่อลองไปสอนชาวนาให้ลดการใช้ยาฆ่าแมลง หรืองดทิ้งกระป๋องสารเคมีใช้แล้วลงในคลองดูสิ 6.คือถ้าเราให้ความเห็นโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุน เวลาเราถูกคำพูดทับถมเช่น ไอ้คนไม่รักชาติ แน่นอนเราก็จะติดร่างแหไปกับคำทับถมนั้นๆ แต่ถ้าเรามีเหตุมีผลมีหลักฐานหรือมีหลักการ ไม่ใช่ไม่หลักปักขี้เลน เราจะไม่หลงไปติดกับคำพูดพวกนั้น7. คนที่รู้ข้อมูลมากกว่าย่อมปรับทิศทางของการสนทนาได้เสมอ จำไว้ (แต่มันจะพูดจริงไม่จริงนั่นอีกเรื่อง)8. เรื่องภาคใต้ คนรู้จักพึ่งเสียญาติไปสองคนในสองอาทิตย์เองอ่ะ แล้วจะต้องให้เค้าเสียที่ทำกินโดยการย้ายถิ่นฐานอีกไหม
sorry.