Invisible Waves


โลกนี้ไม่ได้ถูกแบ่งโดยเชื้อชาติและภาษาอีกต่อไปแล้ว มนุษย์ไม่ได้ถูกแบ่งโดยผิวพรรณและพาสปอร์ต แต่ถูกแบ่งโดยรสนิยมกับ mentality เพื่อนผมที่เป็นศรีลังกา อินเดีย เขาก็ฟังเพลงแบบที่ผมฟัง อ่านหนังสือที่ผมอ่าน รสนิยมต่างหากที่แบ่งมนุษย์ตอนนี้
— เป็นเอก รัตนเรือง

Invisible Waves การกลับมาอีกครั้ง ของ เป็นเอก รัตนเรือง (1)

Invisible Waves (คำพิพากษาของมหาสมุทร) หนังเรื่องล่าสุดของเป็นเอก ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังเปิดเทศกาลบางกอก ฟิล์ม เฟสติวัล ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และถูกส่งเข้าประกวดในเทศกาลหนัง “Berlinale” ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

ทีมงานหลัก ๆ ในหนังยังเป็นแก๊งเดิมสืบเนื่องจากเรื่องที่แล้วคือ ปราบดา หยุ่น เขียนบท, คริสโตเฟอร์ ดอล์ย ถ่ายภาพ และ ทาดาโนบุ อาซาโน่ เป็นดารานำ มีบริษัททำหนังจาก 4 ชาติร่วมลงทุนสร้างคือ ฮอลแลนด์ อิตาลี เกาหลี และฮ่องกง

มีบล็อกด้วย


4 responses to “Invisible Waves”

  1. ชอบหนังเป็นเอก ระดับหนึ่ง ผมว่ามันแปลกดี มีลักษณะติสต์แดก ที่เห็นได้ทั่วไปตามหนังแนวนี้ แต่หลัง ๆ อ่านสัมภาษณ์แล้ว รู้สึกจะเบื่อ ๆ ความเป็นศิลปะของเขามันเหมือนจะง่าย ๆ ปล่อย ๆ ไป มีคนถามว่าทำไมตรงนั้นมีหมาตาย เขาบอกว่า ไม่ได้คิดอะไรหรอก มีแล้วมันสวยดี แล้วก็บ่นว่าจะถามทำไม เหมือนคนถามไม่มีรสนิยม เข้าไม่ถึง หรือมองความงามไม่เหมือนเขาตรงที่เขาบอกว่ารสนิยม/mentality เป็นตัวแบ่งกลุ่มคน ไม่ใช่ประเทศ ไม่ใช่ชาติ ผมว่าเป็นคำพูดที่แสดงตัวตนของเขาออกมาได้มาก… และคิดว่าน่าจะแสดงให้เห็นด้วยว่าเขาไม่ได้มองอะไรไปมากกว่านั้นแล้วคนที่พูดเช่นนั้นได้ คงไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่ในสังคมที่ต้องปากกัดตีนถีบ และดิ้นรนอยู่ในวังวนของโครงสร้างสังคมที่คอยกัดกร่อนกินพวกเขาอยู่ทุกวัน

  2. แต่เราต้องเก็บคนประเภท (ศิลปินแบบต่าง ๆ) นี้ไว้เพื่อสะกิดเป็นระยะ ให้เรามองสิ่งเรามองไม่เห็น มองข้าม หรือไม่คิดที่จะมอง:)"ประชาชนของโลก" มีจริงรึเปล่า ?หรือว่าเป็น ชนชั้นสมมติอันนึง ที่คนกลุ่มนึงสร้างขึ้นมาเพื่อ 'ปลอบใจตัวเอง' (ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน .. ล่างก็ไม่อยาก บนกว่านี้ก็ไม่ได้ .. หรือไม่ก็หมดหวัง เหนื่อยหน่าย ไม่อยากสนใจโลก-อย่างที่มันเป็นอยู่-แล้ว)"Global Citizen" มีมั๊ย ไม่แน่ใจ (บางทีผมก็อยากเป็นอยู่บ้าง ถ้ารักชาติแล้วต้องทำอะไรประหลาด ๆ อย่างใส่เสื้อสีเหลืองทุกวัน)แต่ "Global Elite" นี่มีจริง ยุคโลกาภิวัฒน์ธนกิจซัดกาแฟเช้าที่นิวยอร์ก ประชุมตอนบ่ายที่ดูไบ ไปงานเลี้ยงตอนค่ำที่โตเกียว วันหยุดชอปปิ้งลอนดอนปารีส พักครึ่งปีหนีหนาวไปนอนแถวซิดนีย์ หรือนวดฝ่าเท้าอยู่แถวภูเก็ต ไปที่ไหนก็ได้ที่มีโอกาสและกำไร เครือข่ายทั่วโลก บนผลประโยชน์ แน่นอน ทุกคนล้วนเป็น Eliteพรมแดนประเทศไม่มีความหมาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสังคมหรือผลกระทบ ถ้าวันนี้คิดแล้วไม่คุ้ม พรุ่งนี้ก็ปิดโรงงาน แล้วไปเปิดที่ไหนก็ได้ในเมืองจีน/อินเดีย/บราซิล ….. นี่สิ ไม่มีประเทศ(แล้วจะไปหวังให้เค้ารักชาติทำไม .. ไร้สาระ)เฮ้ย โพสต์เรื่องหนัง !!!:D

Leave a ReplyCancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Exit mobile version