มหาวิทยาลัยเปิดใหม่ – ม.นราธิวาส & ม.นครพนม


มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
จะรวม วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส, วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส, วิทยาลัยการอาชีพตากใบ, และ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นราธิวาส เข้าด้วยกัน

มหา่วิทยาลัยนครพนม
ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับ ม.นราธิวาส แต่ในเว็บไม่ได้ระบุสถาบันไว้
เท่าที่หาเจอในเน็ต นครพนมตอนนี้มี วิทยาลัยสารพัดช่างนครพนม, วิทยาลัยเทคนิคนครพนม (2 แห่ง), วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครพนม, วิทยาลัยการอาชีพนาหว้า, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครพนม, และ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม วิทยาเขตนครพนม
(ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเข้าไปรวมบ้าง — จริงๆ มีอีกที่ คือ ม.รามคำแหง นครพนม .. แต่คิดว่าอันนั้นคงไม่ได้เข้ามารวมด้วยแน่)

ที่เว็บของ ม.มหาสารคาม ระบุไว้ว่า ที่ตั้งของ ม.นครพนม ที่จะจัดตั้งในอนาคต ก็คือที่ตั้งปัจจุบันของ ม.มหาสารคาม วิทยาเขตนครพนม ในปัจจุบันนั่นเอง
(โคกภูกระแต ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม เนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่)

กระจายๆ ออกไปบ้าง 🙂


10 responses to “มหาวิทยาลัยเปิดใหม่ – ม.นราธิวาส & ม.นครพนม”

  1. ตอนนี้คิดว่าเหลือแต่มหาลัย"นั้นแหละ" ที่ไม่ยอมกระจายตัวออกมาซะที สงสัยศักดิ์ศรีค้ำคออยู่มั้ง ที่ก็ออกจะแค๊บแคบดูอย่างธรรมศาสตร์แรกๆ ก็ประท้วงนิดหน่อย พอเข้าที่เข้าทางก็ไม่เห็นมีใครบ่นแอบกัด

  2. ที่ธรรมศาสตร์นี่ ไม่ได้ "ประท้วงนิดหน่อย" นะครับ ประท้วงกันทุกระดับเลย เป็นเรื่องเป็นราวด้วย ตั้งแต่ข้าราชการ อาจารย์ นักศึกษา รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า ชุมชนบริเวณนั้นด้วยเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นแค่การ ย้ายการเรียนการสอน ครับ แต่มันคือ การย้ายชุมชน ไม่ง่ายแน่นอน ยังไม่จบ และยังต้องเจรจาหาทางออกกันอีกนานแน่นอนทุกวันนี้ก็ยังมีคนบ่นอยู่ถึงตัวผมจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร (ตอนเรียนก็เรียนที่รังสิตทั้ง 4 ปี อยู่หอตลอด แล้วตอนนี้ก็จบแล้ว)แต่ก็มีความคิดว่า ไม่จำเป็นจะต้องย้ายมาทั้งหมดโดยเฉพาะสายสังคม อย่าง เศรษฐศาสตร์ วารสาร (เน้นที่ด้านสื่อสารมวลชน พวกสื่อมัลติมีเดีย การออกแบบอะไรนี่ ย้ายไปรังสิตก็ได้) รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ พูดง่ายๆ ก็คือ สาขาวิชาที่เป็น core หลักของธรรมศาสตร์ตอนก่อตั้งนั่นเอง (สมัยเริ่มแรก มีปริญญาสาขาเดียว คือสาขา "ธรรมศาสตร์")เพราะอะไร? เพราะบริเวณนั้นมันเป็นแหล่งวัฒนธรรม เป็นชุมชนที่สัมผัสได้ทั้งสังคมแบบเก่าและแบบใหม่ และที่สำคัญคือ หน่วยงานราชการ ศาล กรม กอง ต่างๆ อยู่บริเวณนั้นเยอะแยะ พวกนี้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษานอกห้องเรียนทั้งนั้นถ้าย้ายมารังสิต นศ.ในคณะพวกนั้น ก็หาสภาพแวดล้อมแบบนั้นลำบากที่รังสิตมันคนละแนวนะ ผมว่า มี อุทยานวิทยาศาสตร์ สวทช. AIT นิคมอุตสาหกรรม … มันออกแนวสายวิทย์มากกว่าจะกระจายมาเปิดสายสังคมเพิ่มที่นี่ก็ได้ สาขาที่มันเป็นพวกสหวิทยาการ อย่าง กฏหมายเทคโนโลยี e-government ก็ทำเลยแต่อย่าไปทิ้งที่ท่าพระจันทร์ของดีมีอยู่ ไม่เห็นจะต้องทิ้งไป—-ส่วนถ้ากรณีจุฬา เค้ามีโครงการขยายมานานแล้วนะทั้งขยายในบริเวณเดิม และขยายออกนอกตัวเมืองด้านที่จะขยายบริเวณเดิมนี่ เริ่มสร้างไปแล้วบริเวณตรงข้ามสามย่าน แต่มาเจอปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำช่วงนั้นซะก่อน เลยสร้างไม่เสร็จ แต่เหมือนตอนนี้จะมาสร้างต่อละรวมทั้งที่บอกจะขอที่คืนจากอุเทนด้วยนอกจากนี้ก็ยังมีโครงการต่างๆ เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาที่เด่นๆ ก็คือ ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องถึงจะไม่ได้เปิดเป็นหลักสูตรปริญญา แต่นี่ก็ถือว่าเป็นการกระจายเหมือนกันมีพวก e-learning ด้วยแล้วก็ยังมีโครงการความร่วมมือต่างๆ เช่น โครงการผลิตบัณฑิตร่วมสาขาต่างๆ (ป.โท-เอก)แต่ละมหาลัยก็จะส่งนศ.มาเรียนที่จุฬสนี่ก็นับว่า 'กระจาย' เหมือนกันคือไปช่วยให้มหาลัยอื่นเค้ากระจายได้ ให้มาใช้ทรัพยากรที่จุฬามีอยู่นี่ก็ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาเหมือนกันตัวอย่าง: ศูนย์วิจัยแห่งชาติด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตรายสรุปได้ว่าวิธีการกระจายโอกาสทางการศึกษา มันมีหลายแบบน่ะมหาลัยแต่ละที่ไม่ต้องเปิดวิทยาเขตเยอะๆ ก็ได้(มี มหาวิทยาลัยนครพนม กะ มี จุฬา วิทยาเขตนครพนม มันก็เพิ่มโอกาสได้เหมือนๆ กัน)

  3. คืออย่าไปมองเป็น มหาลัยนั้น มหาลัยนี้ถ้าทั้งหมดทั้งภูมิภาคออกมาแล้วมันโอเค ก็พอแล้ว

  4. แต่กลัวงี้สิมหาลัยเมืองไทยเดี๋ยวนี้แข่งกันเปิด โดยเฉพาะสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ที่ทำเงิน)กลายเป็นจับฉ่ายวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้สร้างนักวิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ก็ไม่ได้สร้างวิศวกรจริง ๆ แล้วน่าจะสร้างให้มหาลัยสามารถสร้างบัณฑิตได้ตามความเหมาะสมของภูมิภาคที่ตั้งและสิ่งแวดล้อมของมหาลัยไม่ใช่นู่นก็จะเปิด นี่ก็จะเปิดผลออกมาก็คือ ทางมหาลัยก็ยังไม่พร้อม นิสิตตอนเรียนก็ไม่พร้อม อาจารย์ก็ไม่พร้อม บัณฑิตก็ไร้คุณภาพหรือว่าต้องเอาเงินมาให้เยอะ ๆ แล้วบอกว่า "อย่าโกงกันนะ เอาไปพัฒนาการศึกษานะ"

  5. "น่าจะสร้างให้มหาลัย สามารถสร้างบัณฑิต ได้ตามความเหมาะสม ของภูมิภาคที่ตั้ง และสิ่งแวดล้อมของมหาลัยไม่ใช่นู่นก็จะเปิด นี่ก็จะเปิด"ถ้ามองกลับกันมหาลัยก็ใช่ว่าอยากเปิดอะไรก็เปิดได้นะครับเปิดมาก็ต้องคิดเหมือนกัน ว่าจะมีคนเรียนรึเปล่าจะบอกว่า หลักสูตรนี้เหมาะกับท้องถิ่น เอ้าเปิดปรากฏเปิดมา ไม่มีคนเรียน แบบนี้ก็แย่เหมือนกันคิดว่าก่อนจะเปิดอะไร เค้าก็ต้องสำรวจมาแล้วแหละ ว่าคนแถวนั้นเค้าต้องการหรือน่าจะต้องการอะไรผมว่ามหาลัยราชภัฎ น่าจะตอบคำถามเรื่องท้องถิ่นได้นะครับแต่เรื่องที่หลักสูตรใหม่ๆ ที่เปิดเพิ่ม มันจะเป็นหลักสูตรที่ทำเงินอันนี้เห็นด้วยแต่ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่า มหาลัยก็ต้องเลี้ยงตัวเอง ต้องเตรียมตัวออกนอกระบบกันแล้วแล้วก็ใช่ว่าเปิดมาแล้วมันไม่ดี เพราะถ้าไม่ดี ก็คงไม่มีใครเรียนอ่ะครับความน่าเป็นห่วงจึงไม่น่าจะไปอยู่ที่ว่า เปิดสายวิทย์เยอะ หรือไม่ได้ผลิตนักวิทย์/วิศวกร (ถ้าจะบอกว่ามหาลัยต้องตอบสนองสังคม แง่นี้ก็พูดได้ว่า ก็ตลาดงานไม่ได้ต้องการนักวิทย์/วิศวกรนี่)แต่น่าจะไปห่วงที่ว่า พวกสายสังคม ที่สำคัญๆ แต่ดันไม่ทำเงินน่ะ กลัวจะโดนยุบ หรือว่าลดจำนวนรับ หรือว่าไม่เปิดสาขาใหม่ๆ เพิ่มมากกว่าจริงๆ อันนี้มันไม่ได้แค่สายสังคมหรอก พวกสายวิทย์บริสุทธิ์ อย่าง คณิต ฟิสิกส์ ก็โดน (เดี๋ยวนี้ ชีวะ กะ เคมี ทำมาหากินได้แล้ว)จริงๆ พูดมาพูดไป มันก็พายเรือวนในอ่างก็ตลาดเค้าต้องการมาอย่างนี้ งบก็มีอยู่แค่นี้ก็ต้องมองการณ์ใกล้ๆ ก่อนล่ะจะไปมองการณ์ไกลๆ เปิดหลักสูตรดีๆ สำคัญ แต่คนเรียนน้อย ไม่มีสปอนเซอร์ เดี๋ยวมหาลัยก็จะแย่ ไม่ไหวหรอกทำนองคนหาเช้ากินค่ำน่ะครับ ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอนาคตหรอกต้องท้องอิ่ม นอนสบายก่อน เรื่องห่วงอนาคตค่อยมาไม่แปลกแต่อย่างใด

  6. ไม่รู้จะตอบอะไรแต่ถ้าเป็น /. จะให้คะแนน bact' เป็น 5: Informative

  7. Comment ยาวกว่า Post อีก.. ฮ่าๆๆๆๆ(มึน.. ม่านไม่หมด)

  8. แอบกัน MK:ต้องเอาอย่างเกษตรฯ สิ เปิดวิทยาเขตเยอะแยะไปหมด อาจารย์วิ่งรอกสอนกันจนหัวปั่น ทั้งๆ ที่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าแต่งานวิจัยไม่ไปไหนเลย เพราะอาจารย์มัวแต่เดินสาย 🙂 (ปล. ดูจากทุนป. เอก สกว. ก็ได้นะ)แอบกัด bact':ครับ จะย้ายไม่ย้ายไม่ว่าครับ แต่เลิกไปยุ่งกับ AIT เั้ค้าได้ไหม หรือว่าที่เค้าว่าจิตวิญาณของธรรมศาสตร์อยู่ที่ท่าพระ-จันทร์น่ะจริง%——————————————————%มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคเปิดเยอะๆ ดีแล้วครับ เพราะการพัฒนาชุมชนนั้นต้องการคนในท้องที่ด้วย ไม่ต้องดูไกลดูที่เชียงใหม่กับขอนแก่นก็ได้ ต่อไปอุบลฯ พิษณุโลก ฯลฯก็จะเริ่มเป็นเมืองมหาวิทยาลัยเป็นชุมชนมหาวิทยาลัย ซึ่งย่อมต้องดีกว่าชุมโจร เจ้าพ่อ เจ้าแม่ แน่นอน เริ่มต้นอาจจะ้คุณภาพต่ำนะครับ แต่เมื่อมีการแข่งขันมากขึ้น ก็จะเกิดการพัฒนาเอง อาจารย์ที่เกิดต่างจังหวัด เรียนกรุงเทพฯ ถ้าให้เค้าเลือกเค้าก็คงอยากไปสอนที่บ้านเกิด%——————————————————%ส่วนเรื่องบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไม่ว่าสายวิทย์หรือสายศิลป์ มหาวิทยาลัยก็ต้องสร้างเอง ภูมิภาคฯก็ต้องสร้างเอง เรื่องหน่วยงานราชการเค้าก็กำลังมีแนวคิดจะย้าย ส่วนเรื่องศาลนั้นเกษตรฯ น่าจะใกล้ศาลใหญ่ๆ มากกว่าธรรมศาสตร์นะ

  9. เหอะๆ พวกผมเชียร์ AIT อ่ะ :Pอาจารย์ก็จบมานั่น พี่ๆ TA ก็มาจากนั่น เพื่อนๆ พี่น้อง ก็ไปเรียนนั่น ห้องสมุดก็ไปใช้ของเค้าด้วย.. แถมส้มตำก็อร่อยอีก 😛

  10. จิตวิญญาณธรรมศาสตร์อยู่ที่คนนะแล้วไม่ต้องเป็นนศ.ม.ธรรมศาสตร์ก็มีได้ ใครๆ ก็มีได้คนที่ตายในสนามบอล มีคนที่ไม่ใช่นศ.มธ.มากกว่าอีก

Leave a ReplyCancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Exit mobile version